เมื่อวันที่ 21 ส.ค. นางระวิวรรณ พุ่มพฤกษ์ อายุ 66 ปี มารดาของนายวีระพงษ์ พุ่มพฤกษ์ และนายชาติ วิมูลรักชาติ อายุ 60 ปี บิดาของน.ส.วริศรา วิมูลรักชาติ พ่อและแม่ของสองสามีภรรยาพร้อมด้วยบุตรสาวทั้ง 2 คนของผู้ตาย ที่ถูกนายประสาท ร่างใหญ่ หรือ เล็ก อายุ 51ปี เจ้าของร้านทำผม PIMMY HAIR SALON ซึ่งตั้งอยู่ภายในห้างสรรพสินค้าชื่อดัง จ.ปทุมธานี แทงเสียชีวิต ได้เดินทางมาที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เพื่อติดต่อขอรับศพไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนา

นางระวิวรรณ  พุ่มพฤกษ์  กล่าวว่า เหตุการณ์เช่นนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้น ตนเองทำอะไรไม่ถูกทั้งสองคน ไม่เคยมีเรื่องกับใครเลย มันเป็นเรื่องแค่นิดๆหน่อยๆ น่าจะอภัยให้กันได้เรื่องเงินก็คุยกันได้ แต่การสูญเสียครั้งนี้มันไม่น่าเกิดขึ้น ตนเองอยากเจอผู้ก่อเหตุอยากถามว่าทำไมต้องทำเช่นนี้ ซึ่งเท่าที่คุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสองคนไม่ได้ต่อสู้หรืออะไรเลย ไปถึงก็แทงเลยมันโหดเหี้ยมตั้งใจที่จะมาก่อเหตุ มีดก็ไม่ได้อยู่ในร้านมีดก็อยู่นอกร้านเตรียมมา ที่สำคัญหลานซึ่งเห็นเหตุการณ์ตลอดจะต้องฝังใจไปอีกนานตอนนี้หลานยังเด็กยังสับสนว่าจะอยู่กับใครหลังจากนี้ แต่ปกติหลานจะอยู่กับพ่อกับแม่ และมีบ้านตาอยู่ข้างกัน จะมีความสัมพันธ์กับทางนี้มากกว่า ส่วนร่างของบุตรชายตนเองจะรับกลับไปบ้านเกิดที่ จ.เชียงราย 

มือแทงดาราตัวประกอบ 2 ศพปฏิเสธทำแผน นำตัวฝากขัง22ส.ค….

นายชาติ กล่าวว่า ตนเองไม่อยากเห็นหน้าคนร้าย เพราะการกระทำนั้นโหดร้ายเกินกว่าเหตุ ส่วนเรื่องหลานที่อยู่ในเหตุการณ์ด้วยนั้น หลังจากนี้ยังมีพี่สาวอีกคนอายุ 20 ปี ที่จะเป็นคนคอยดูแล แต่อย่างไรก็ตามจะต้องมีการพูดคุยกันอีกทีหนึ่ง แต่ปกติจะไปมาระหว่างบ้านตนเองและบ้านของพ่อแม่ บุตรสาวตนเองเป็นกำลังหลักของครอบครัวหาเงินมาดูแลทุกคนในครอบครัว ตนเองทราบว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุครั้งนี้เพราะลูกตนเองพูดไปว่าหากไม่มาคุยให้จบจะไปแจ้งเรื่องที่สำนักงานใหญ่ ผู้ก่อเหตุจึงบอกว่าจะเสียเขาชื่อจึงก่อเหตุขึ้น ตนเองอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ส่วนร่างของบุตรสาวตนเอจะนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดเทียนถวาย ต.บ้านใหม่ อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี

น้องปิงปอง อายุ 20 ปี ลูกสาวคนโต กล่าวว่า แม่ก็บ่นให้ฟังว่าแม่ไปตัดผมสั้นมา แต่มันสั้นเกินไปซึ่งหนูก็ไม่ชอบให้แม่ตัดผมอยู่แล้ว และรู้แค่ว่ามีปากเสียงกับเจ้าของร้าน แต่ไม่รู้ว่ามันจะใหญ่ขนาดนี้เจ้าของร้านก็ไล่ออกจากร้าน ซึ่งวันที่เกิดเรื่องหนูก็ไม่รู้ว่าแม่ จะไปที่ร้านเพราะแม่โทรศัพท์มาบอกให้ดูบ้าน เพราะหนูจะซื้อบ้านให้แม่ดูเรื่องเอกสาร ขณะที่ตนเองขับรถจะเลี้ยวเข้าที่ทำงานย่านลาดพร้าว ก็มีโทรศัพท์เข้ามาซึ่งตนเองก็ไม่ได้รับ และก็โทรมาอีกทีปลายสายไม่ใช่เสียงน้องเป็นเสียงของพนักงานแถวนั้น ตามว่าเป็นอะไรกับน้องแพรตนก็บอกว่าเป็นพี่สาว และน้องก็พูดมาว่าปะป๋ากับแม่จ๋า โดนแทง ตนเองถึงรีบขับรถมา และเขาก็บอกว่าแม่ไม่รอดแล้ว ตนไม่รู้เลยว่าแม่ไปร้านนี้บ่อยไหมปกติแม่ผมยาว แต่มาตัดประบ่าซึ่งแม่ก็โวยวายซึ่งทางร้านก็จะรับผิดชอบ แต่แม่เขาไม่ยอมซึ่งพ่อกับแม่เป็นคนใจเย็นมาก แต่ไม่รู้ว่าไปคุยกันยังไง และแม่ก็ได้รูปผมมาให้ดูด้วย