ศึกลูกหนังชิงโล่การกุศล คอมมิวนิตี ชิลด์ ที่สนามเวมบลีย์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เลสเตอร์ ซิตี แชมป์ เอฟเอ คัพ ลงสนามดวลเกือก แมนเชสเตอร์ ซิตี แชมป์พรีเมียร์ลีก ซึ่งยังขาดนักเตะตัวหลักไปหลายคนรวมทั้ง เควิน เดอ บรอยน์ ที่ยังบาดเจ็บ ขณะที่ แจ็ค กรีลิช มิดฟิลด์ตัวใหม่ มีชื่อเป็นเพียงตัวสำรองเท่านั้น

ครึ่งแรกทั้ง 2 ทีมเปิดเกมแลกกันอย่างสนุก และมีโอกาสลุ้นประตูพอสมควร แต่ทั้ง แคสเปอร์ ชไมเคิล นายทวารของ เลสเตอร์ และแซค สเตฟเฟน มือกาวของ แมนฯ ซิตี ต่างโชว์ฟอร์มได้อย่างเหนียวหนึบจนทำให้สกอร์ยังเสมอกันอยู่ 0-0

ครึ่งหลัง แมนฯ ซิตี เริ่มทำเกมได้ดีกว่าเล็กน้อย แต่ก็ยังหาโอกาสลุ้นประตูแบบจะแจ้งได้ กระทั่งนาทีที่ 65 เปป กวาร์ดิโอลา กุนซือ “เรือใบสีฟ้า” จึงตัดสินใจส่ง กรีลิช ลงสนามมาแทน ซามูเอล เอโดซี แต่สุดท้าย ดาวเตะ 100 ล้านปอนด์ ก็แผลงฤทธิ์ไม่ออก

เกมทำท่าจะจบลงด้วยการเสมอกัน 0-0 กระทั่งนาทีที่ 89 เลสเตอร์ ก็มาได้ลูกจุดโทษจากจังหวะที่ เคเลชี อิเฮียนาโช โดน นาธาน อาเก ทำฟาวล์ในเขตโทษ ก่อนที่ อิเฮียนาโช จะลุกขึ้นมาสังหารเข้าไปไม่พลาดเป็นประตูชัยให้ “จิ้งจอกสยาม” เชือด แมนฯ ซิตี หวุดหวิด 1-0 คว้าแชมป์ คอมมิวนิตี ชิลด์ ไปครองเป็นสมัยที่ 2 อย่างงดงาม.

ภาพ gettyimages, AP