โลดแล่นในวงการมาถึง 11 ปีแล้ว และตอนนี้กำลังมีผลงานต่อเนื่อง สำหรับนางเอกสาว ทับทิม-อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์ ที่ตอนนี้กำลังทำให้แฟน ๆ หลงเสน่ห์ในบทบาทสารวัตรสาวคนเก่งในละครกระแสแรง “หลงกลิ่นจันทน์” ทางช่อง 7HD กด 35 วันนี้ “ดาวต่างมุม” จึงไม่พลาดมาพูดคุยกับสาวทับทิม ถึงบทบาทการแสดงครั้งนี้และเรื่องราวการใช้ชีวิตในวงการบันเทิง ที่ตัวเธอได้นำประสบการณ์ที่สะสมมาต่อยอดเป็นงานเบื้องหลังที่เธอรัก รวมทั้งไม่พลาดอัพเดทเรื่องหัวใจมาฝากกันด้วย

ความรู้สึกหลัง “หลงกลิ่นจันทน์” ออนแอร์แล้ว เป็นยังไงบ้าง?
“ดีใจแทนพี่ ๆ ทีมงานทุกคนและหายเหนื่อยค่ะ เพราะเรื่องนี้ได้รับคำชมทุกส่วนเลย เกินความคาดหมายมาก ๆ ตอนแรกก็ลุ้นอยู่ว่าละครออนแอร์ไปแล้ว คนจะชอบรึเปล่า เพราะเป็นแนวใหม่ ๆ ที่เราไม่ค่อยได้เห็นในช่อง 7 เท่าไหร่ ซึ่งขอบคุณทุกคำชมที่เข้ามาหาทับทิมค่ะ”

เตรียมตัวมารับบทตำรวจนี้ยังไง?
“สิ่งที่ท้าทายของการเป็นตำรวจ น่าจะเป็นเรื่องที่เรานำเสนอมุมมองด้านการทำงานของตำรวจ เพราะเรื่องนี้เราจะได้เห็นเลยว่าตำรวจทำงานกันยังไง มีขั้นตอนอะไรบ้าง มันท้าทายตรงที่เราเป็นสารวัตร ก็ต้องมีลูกน้อง คอยคุมคดีที่เราดูแล ต้องจัดการทุกอย่างได้ เป็นความท้าทายในมุมมองของการเป็นผู้นำ ที่เราต้องนำเสนอออกมาให้ได้ค่ะ”

การได้แสดงเป็น “ร.ต.อ.ว่านรัก” คิดว่าตัวเองได้เรียนรู้อะไรมากที่สุด?
“ว่านรักมีข้อเสีย ตรงคิดเร็ว ทำเร็ว บางทีมันทำให้ส่งผลเสียกับตัวเรา เวลาที่ทำอะไรเร็วเกินไป คิดไม่รอบคอบ บางทีก็อาจทำให้เรื่องร้ายกลับมาที่ตัวเราได้ ดังนั้นเราอาจต้องสโลว์ความคิดตัวเองลงนิดนึง ก่อนทำอะไรค่ะ”

อยากให้คนที่ได้ดู “หลงกลิ่นจันทน์” ได้อะไรมากที่สุด?
“ได้ความสนุกและได้คิดตาม มันเป็นละครที่ฝึกสมองมากว่าสิ่งที่เราคิดถูกต้องรึเปล่า และยังแสดงให้เห็นในเรื่องผู้มีอิทธิพลในเมือง ที่มีผลต่อคดี และได้เห็นการทำงานของตำรวจ และสังคมจริง ๆ ที่อาจมีเรื่องไม่ถูกต้องอยู่ มีการตีแผ่ตรงนี้ด้วย มันอาจไม่ได้ขาวสะอาดร้อยเปอร์เซ็นต์ เป็นการสะท้อนสังคมอีกแบบนึง และทำให้ทุกคนได้คิดว่าสุดท้ายแล้ว เราจะเลือกเป็นคนแบบไหน จะเลือกต่อสู้เพื่อความถูกต้องรึเปล่า หรือเราจะเป็นคนที่โดนอิทธิพลครอบงำค่ะ”

อัพเดทผลงานอื่น ๆ กันหน่อย?
“มีถ่ายทำ “เสาร์ 5” อยู่ แต่ตอนนี้หยุดถ่ายทำก่อนค่ะ และมีรายการ “สตรีมหานคร แม่มา” ทางบักกาบู ที่ทับทิมทำเอง เป็นซีซั่น 2 แล้ว เราจะเชิญคุณแม่ เซเลบ มาพูดคุยกัน และพาไปรู้จักกลุ่มแม่ค้า และแม่ยก ซึ่งพอได้มาเป็นพิธีกรเอง ก็สนุกค่ะ เพราะทับทิมชอบงานด้านพิธีกรอยู่แล้ว อยากมีรายการของตัวเอง”

อยู่วงการ 11 ปีแล้ว เมื่อมองย้อนไป คิดว่าตัวเองเติบโตขึ้นด้านไหน?
“เติบโตทุกด้านเลย ในแง่การแสดงมันมีสิ่งใหม่ ๆ ให้เราได้เรียนรู้ตลอดเวลา ทับทิมมีความรู้สึกว่าเราได้พัฒนาฝีมือตัวเองต่อเนื่องมาเรื่อย ๆ จากทุกบทบาทที่ทับทิมได้รับ โชคดีที่แต่ละบทบาทที่ได้รับ มักเป็นคาแรกเตอร์ที่ไม่ซ้ำกัน ทำให้เราได้ท้าทายฝีมืออยู่ตลอดเวลา อีกอย่างที่เราโตขึ้น คือเรื่องมุมมอง ความคิด การทำงาน การสะสมประสบการณ์ต่าง ๆ และนำมาต่อยอดธุรกิจของตัวเองได้ ซึ่งตอนนี้ทับทิมเปิดบริษัท “ทับทิม 61 จำกัด” ที่ผลิตคอนเทนต์เอง และมีซิงเกิ้ลที่ปล่อยออกมา ชื่อ “รักทั้งหัวใจ” ของกลุ่มศิลปินฝึกหัดในบริษัท และรับงานแทบครบในสายบันเทิงแต่ทับทิมก็ไม่ทิ้งเบื้องหน้า แค่รู้สึกว่ามันถึงเวลาที่เราจะนำประสบการณ์ที่เก็บมาต่อยอดค่ะ”

มีมุมมองการแข่งขันในวงการยังไง?
“ทุกคนมีจุดเด่น มีความแตกต่างของตัวเองอยู่แล้ว มันไม่มีใครซ้ำทางกับใคร เพราะฉะนั้นมันก็เป็นโอกาสดีที่จะมีรุ่นใหม่ ๆ และเป็นกำไรของคนที่เสพงานในวงการบันเทิงด้วย ที่ได้เห็นอะไรแปลกใหม่ ได้มีตัวเลือกเยอะมากขึ้นค่ะ”

ในฐานะที่เป็นคนดัง ทำอะไรย่อมโดนจับตามอง มีวิธีรับมือกับเสียงวิจารณ์หรือคอมเมนต์ต่าง ๆ ที่เข้ามายังไง?
“ทับทิมไม่ค่อยได้เจอข่าวที่หนักจนกระทบจิตใจมาก หรืออะไรหนัก ๆ ที่ผ่านมา มันไม่เคยเป็นเรื่องจริง เราเลยไม่ได้เครียดกับมัน เพราะรู้สึกว่าในเมื่อมันไม่ใช่เรื่องจริง เราจะไปโต้ตอบให้ยาวทำไม จะไปซีเรียสทำไม แค่ปล่อย เดี๋ยวมันก็ผ่านไปเอง คนอื่นที่ได้สัมผัสเรา เขาก็รู้เองว่าเรื่องจริงเป็นยังไง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือแค่ครอบครัว และคนรอบข้างเข้าใจเรา แค่นั้นก็พอแล้ว รู้ความจริงว่าเป็นยังไง เลยไม่ค่อยซีเรียสเรื่องข่าว หรืออะไรด้านลบ แต่ถ้าอันไหนเป็นเรื่องจริง ทับทิมก็เอามันมาคิดว่าเพราะอะไร ทำไมเขาถึงพูดว่าเราเป็นแบบนั้น มีอะไรที่เราพลาดไปมั้ย ก็ปรับปรุงให้มันดีขึ้นค่ะ”

เป้าหมายในวงการของ “ทับทิม” วันนี้เป็นยังไง?
“ตอนนี้ยังมีอะไรที่อยากทำอีกเยอะมาก ก็คิดว่าต่อจากนี้คงได้เห็นความหลากหลายในงานของทับทิมมากขึ้น ได้เห็นการทำงานของทับทิมในรูปแบบใหม่ ไม่ใช่แค่เป็นนักแสดงอย่างเดียว แต่ยังมีงานเบื้องหลังด้วย อย่างเพลง “รักทั้งหัวใจ” ทับทิมก็กำกับเอ็มวีเพลงนี้เองเป็นครั้งแรก ซึ่งพอได้มาทำงานด้านการกำกับ ก็คิดว่าสนุกและท้าทาย แต่ยังมีอะไรที่ต้องปรับปรุงและเรียนรู้อีกเยอะมาก ทับทิมเองก็ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ชอบลองทำอะไรใหม่ ๆ ตลอดเวลา และรู้เลยว่าเป็นผู้กำกับมันเครียดกว่าแสดงอีกค่ะ (ยิ้ม)”

มุมมองความรัก “ทับทิม” ในวัยนี้ เป็นยังไง?
“โตขึ้นและนิ่งขึ้นเยอะมาก ๆ เมื่อก่อนทับทิมอาจคิดแบบเด็ก ๆ คิดแคบ ๆ พอเราโตขึ้น เห็นโลกกว้างมากขึ้น ได้เจอคนเยอะขึ้น ทำให้เรามีความรู้สึกว่า ถ้าเรื่องความรัก มันไม่ใช่แค่คนสองคนจริง ๆ เพราะในโลกนี้เราไม่ได้อยู่กันแค่สองคน มันต้องมองมุมกว้างมากขึ้น มองถึงเรื่องความเป็นจริง ที่เราอยู่ในโลกนี้ กับสังคมและทุกคน”

เปิดหัวใจมั้ย?
“ทับทิมเปิดใจตลอดเลยค่ะ แต่ตอนนี้ไม่ได้ไปไหน เราเวิร์ก ฟรอม โฮม ก็ไม่ค่อยได้เจอใคร และก็เน้นเรื่องงานมาก ๆ แต่ไม่ได้ปิด ถ้าวันนึงมีความรักที่ดี มีคนที่ซัพพอร์ตกันและกัน เป็นกำลังใจให้กัน เดี๋ยวค่อยคิดอีกทีนึงค่ะ”

คนที่จะเอาชนะใจ “ทับทิม” ได้ ต้องเป็นคนยังไง?
“ไม่มีอะไรมากเลยนะ ขอแค่เป็นคนดี เข้ากับทับทิมได้ เข้ากับครอบครัวได้ และเป็นคนที่เข้าใจทับทิม เพราะทับทิมชัดเจนพอสมควร เวลาใครเข้ามาคุย มาทำความรู้จักกัน ก็จะบอกเลยว่าทับทิมเป็นแบบนี้นะ ต้องการ 1 2 3 โอเครึเปล่า ตั้งแต่แรก ด้วยความที่เราทำงานเยอะ ก็ไม่มีเวลามานั่งเล่น เราเลยชัดเจนมาก ก็เคลียร์ตั้งแต่แรกเลย ส่วนเรื่องอายุก็ไม่เกี่ยง แต่ถ้าเป็นสเปก ก็คือชอบคนที่โตกว่า เพราะทับทิมก็รู้สึกมีความอยากอ้อนบ้าง (หัวเราะ)”

เหมือน “ทับทิม” ค่อนข้างหวงเรื่องส่วนตัว มีวิธีบาลานซ์และตอบเรื่องความรักกับเรื่องงานยังไง?
“ทับทิมก็มีพื้นที่นึง ที่เรารู้สึกว่าตรงนี้ มันเป็นส่วนตัวของเรา เราอาจไม่ต้องมานั่งบอกเรื่องราวทั้งหมด แต่ก็ไม่ได้ปิดนะ ถ้ามีคนถาม เราก็ตอบ แต่คงไม่ได้เดินออกไปบอกใครต่อใคร แค่อยู่ในพื้นที่ของเราถ้ามีใครอยากรู้ เราก็ไม่ได้ปิดบัง ที่ผ่านมาถ้ามีอะไร ทุกคนก็ได้เห็นตามปกติ เพราะเราใช้ชีวิตตามปกติทุกอย่างเลยค่ะ”

ฝากผลงานและฝากถึงแฟน ๆ หน่อย?
“ขอบคุณทุกคนมากที่ติดตามเป็นกำลังใจให้ทับทิมมาโดยตลอด ไม่ว่าทับทิมจะทำอะไร ทุกคนก็พร้อมที่จะอยู่เป็นเพื่อนล้อมทับทิมตลอดเวลา ทับทิมไม่เคยอยู่ตัวคนเดียว ที่ผ่านมาจะมีคนให้กำลังใจเราตลอด ขอบคุณมากจริง ๆ และขอให้อยู่ด้วยกันนาน ๆ แบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ และฝากติดตามผลงานของทับทิมด้วยนะคะ”