ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นับแต่เดือน เม.ย.64 ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบัน ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่และผู้เสียชีวิตยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญมาตรการคุมเข้ม มาตรการล็อกดาวน์โดยหลายจังหวัดเป็นพื้นที่สีแดง ส่งผลต่อการดำเนินชีวิตประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ และล่าสุดจากรายงานสรุปข้อมูลให้ความช่วยเหลือมูลนิธิอนุรักษ์ช้าง และสิ่งแวดล้อม พบว่าปัญหาโควิดลุกลามกระจายกระทบถึงการดำรงค์ชีวิตของ “ช้าง” ที่ถือเป็นสัตว์ประจำชาติไทย อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ทั้งนี้จากข้อมูลของมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม ที่มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการฯ เพื่อการดูแลสัตว์ของมูลนิธิที่มีเป็นจำนวนมาก ทั้ง หมา แมว ม้า วัว ควาย หมูป่า กระต่าย ลิง เต่า แพะ และสัตว์ปีก รวมแล้วเกือบ 5,000 ชีวิต รวมทั้ง ช้าง อีก 101 ตัว จากข้อมูลของ นางสาวแสงเดือน ชัยเลิศ ประธานมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม แจ้งว่า มูลนิธิฯ ไม่มีรายได้เข้ามาเพื่อดูแลสัตว์ชนิดต่างๆ เนื่องจากการระบาดโควิด-19 ซึ่งรายได้หลักๆ มาจากการท่องเที่ยว และส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ 90%

โดยสถานการณ์ในปัจจุบัน ไม่อาจคาดการณ์ได้ว่าเหตุการณ์จะกลับมาเป็นปกติได้เมื่อไหร่ ทางมูลนิธิฯ จึงพยายามทุกวิถีทางเพื่อจะหาทางฝ่าฟันและผ่านพ้นในช่วงวิกฤตินี้ไปให้ได้ รวมถึงปลูกอาหารให้สัตว์ ขายตะกร้าผลไม้และทำเค้กผลไม้ให้ช้างรวมถึงผลิตสินค้าออกมาขาย เพื่อหาทางอยู่รอด แต่เนื่องจากทุกคนอยู่ในภาวะยากลำบาก จึงทำให้การประกอบกิจการต่างๆไม่ง่ายอย่างที่คิด

ทั้งนี้ทางมูลนิธิได้รวบรวมข้อมูลรายละเอียดสิ่งจำเป็นในการขอความช่วยเหลือเพื่อนำไปจัดซื้ออาหารให้ช้าง และสัตว์อื่นๆ รวมทั้ง ยารักษาโรค และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ทางกลุ่มงานบริษัทสยาม ไวเนอรี่ โดยคุณเฉลิม อยู่วิทยา และครอบครัว ได้มอบเงินจำนวน 3,000,000 บาท โดยจะส่งมอบเงินช่วยเหลือเป็นค่าใช้จ่ายจำเป็นเบื้องต้น จำนวนเดือนละ 500,000 บาท เป็นเวลา 6 เดือน โดยนางสาวแสงเดือน ชัยเลิศ ประธานมูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม เป็นผู้รับมอบ