เมื่อวันที่ 2 ส.ค. นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้รับทราบรายงานสถานการณ์ความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทระหว่างราชอาณาจักรไทยกับบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด จำกัด โดยเรื่องเหมืองทองอัครา เป็นการรายงานตามปกติของกระทรวงอุตสาหกรรม มายังที่ประชุม ครม. เป็นประจำทุกเดือน ว่ามีความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาอย่างไรบ้าง และที่ประชุมก็รับทราบไม่ได้มีข้อติดขัด หรือข้อห่วงใยอะไร

ทั้งนี้ยอมรับว่า ความคืบหน้าของการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทดังกล่าว ล่าสุดยังอยู่ในขั้นของการเจรจาเพื่อประนอมข้อพิพาทระหว่างไทย กับ คิงส์เกต ตามคำแนะนำของอนุญาโตตุลาการ และจะชี้ขาดอีกครั้งในช่วงสิ้นปี 2565 ดังนั้นในระหว่างนี้ ก็คงต้องรอข้อสรุปผลการเจรจาออกมาก่อนว่าจะเป็นอย่างไร ถ้าผลการเจรจาเป็นที่น่าพอใจ เขาก็อาจถอนเรื่องออกจากอนุญาโตตุลาการได้ แต่ก็ต้องรอข้อสรุปอีกที

ส่วนกรณีของฝ่ายค้านได้อภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล โดยเสนอแนวทางการแก้ปัญหาด้วยการให้ยกเลิกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 72/2559 ตามมาตรา 44 แล้วจะนำไปสู่การ Set Zero นั้น ไม่สามารถทำได้ และที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีใครพูดถึงเรื่องนี้ เพราะทุกอย่างมันเดินหน้าไปแล้ว และคงไม่เหมือนเดิม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุม ครม.กำหนดให้การพิจารณาเรื่องนี้เป็นวาระลับ โดยนายวิษณุ ได้มอบหมายให้นายนิรันดร์ ยิ่งมหิศรานนท์ อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ เป็นผู้รายงานความคืบหน้าในการเจรจากับบริษัทคิงส์เกตฯ มีแนวโน้มที่ดี ซึ่งก่อนหน้านี้ประเทศไทยได้มีการอนุมัติประทานบัตร 4 แปลงให้กับบริษัทไปก่อนหน้านี้ ประกอบด้วย ประทานบัตรเหมืองชาตรีใต้ 3 แปลงและเหมืองแร่ควอตซ์ 1 แปลง ขณะนี้อยู่ระหว่างหารือในรายละเอียดต่างๆ เพิ่มเติม จะยังไม่มีการตัดสินจากอนุญาโตตุลาการ ซึ่งล่าสุดอนุญาโตตุลาการได้เลื่อนการพิจารณาคดีออกไปเป็นช่วงปลายปี 2565 แล้ว เพื่อให้การเจรจาสามารถทำได้อย่างเต็มที่