สหราชอาณาจักรเข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับกลุ่มประเทศอาเซียน เมื่อวันที่ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา นับเป็นการลงนามประเทศคู่เจรจาครั้งแรกในรอบ 25 ปี ของกลุ่มประเทศอาเซียน สถานะประเทศคู่เจรจาอาเซียน-สหราชอาณาจักรจะนำไปสู่ความร่วมมือที่แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นระหว่างสหราชอาณาจักรและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการค้า การลงทุน การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สิ่งแวดล้อม วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และการศึกษา
นายโดมินิก ราบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและการพัฒนาสหราชอาณาจักร เข้าร่วมพิธีต้อนรับสหราชอาณาจักรในฐานะประเทศคู่เจรจาอาเซียนกับรัฐมนตรีจากประเทศต่าง ๆ ในกลุ่มประเทศอาเซียนแบบเสมือนจริงผ่านระบบออนไลน์ โดยตั้งแต่สหราชอาณาจักรสมัครเข้าร่วมเป็นประเทศคู่เจรจาในปี พ.ศ.2563 นายราบได้เข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรีอาเซียน 2 ครั้ง และได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมกรอบอาเซียน ในที่ประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศ และการพัฒนาของกลุ่มประเทศ G7 เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
อาเซียนนับเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพล ซึ่งมีประเทศสมาชิก 10 ประเทศในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก โดยการเข้าร่วมเป็นประเทศคู่เจรจาของสหราชอาณาจักรนี้ จะสานสัมพันธ์ระหว่างสหราชอาณาจักรและกลุ่มประเทศอาเซียนอย่างเป็นทางการ รวมถึงการเข้าร่วมประชุมประจำปีระดับรัฐมนตรีต่างประเทศและเศรษฐกิจอาเซียน และรัฐมนตรีอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย
สถานะประเทศคู่เจรจาจะทำให้สหราชอาณาจักรเข้าถึงศูนย์กลางของภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ทั้งนี้ สหราชอาณาจักรจะทำงานร่วมกับอาเซียนและประเทศสมาชิกที่เผชิญกับความท้าทายต่าง ๆ ที่สำคัญร่วมกัน เช่น ความมั่นคงทางทะเลและอาชญากรรมข้ามชาติ การกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการค้า และกระชับความร่วมมือด้านต่าง ๆ ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น เช่น ประเด็นการแพร่ระบาดของโควิด-19 และการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

นายโดมินิก ราบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและการพัฒนาของสหราชอาณาจักรกล่าวว่า
“ผมยินดีที่วันนี้สหราชอาณาจักรได้รับสถานะคู่เจรจาอาเซียนอย่างเป็นทางการ นับเป็นประเทศแรกที่ได้รับสถานะนี้ในรอบ 25 ปี”

“ช่วงเวลานี้นับเป็นช่วงที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับสหราชอาณาจักร ในการให้ความสำคัญกับภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นขึ้นกับอาเซียนนี้ จะทำให้เกิดการสร้างงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหลายตำแหน่ง ส่งเสริมความร่วมมือด้านความมั่นคง ด้านเทคโนโลยีและความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ และปกป้องเสาหลักของกฎหมายระหว่างประเทศ เช่น อนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล”


ด้วยสถานะประเทศคู่เจรจาใหม่นี้จะช่วยให้สหราชอาณาจักรและกลุ่มประเทศอาเซียน มีความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจแนบแน่นยิ่งขึ้น ซึ่งในปัจจุบันมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) สูงถึง 3.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 106 ล้านล้านบาท) มูลค่าการค้าโดยรวมระหว่างสหราชอาณาจักรและกลุ่มประเทศอาเซียนอยู่ที่ 32.3 พันล้านปอนด์ (ราว 1.49 ล้านล้านบาท) ในไตรมาสทั้ง 4 ไปจนถึงปลายไตรมาสที่ 1 ของปี พ.ศ.2564 ด้วยศักยภาพที่ยิ่งใหญ่นี้จะเสริมการค้า และสร้างงานอีกหลายตำแหน่งในสหราชอาณาจักร

นายโดมินิก ราบ ได้เยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้แล้ว 5 ครั้ง ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและการพัฒนาของสหราชอาณาจักร แสดงให้เห็นถึงความสำคัญที่มากขึ้นของภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ดังที่ได้ระบุไว้ในรายงานทบทวนนโยบาย​แบบองค์รวม (Integrated Review) ของสหราชอาณาจักร


ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา สหราชอาณาจักรได้ประกาศเข้าร่วมเจรจา ในความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (CPTPP) ซึ่งเป็นหนึ่งในเขตการค้าเสรีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก มีมูลค่ามากถึงร้อยละ 13 ของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมโลกในปี พ.ศ.2562 ในปัจจุบันมีประเทศสมาชิกอาเซียน 4 ประเทศเข้าร่วมในความตกลง CPTPP ได้แก่ สิงคโปร์ เวียดนาม มาเลเซีย และบรูไน.

ขอขอบคุณ สถานเอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำประเทศไทย