นฤเบศวร์ ถนิมพาสน์ ผู้สื่อข่าวกีฬาเดลินิวส์ รายงานการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2020 “โตเกียวเกมส์” ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อ 5 ส.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งนักกีฬาไทยมีลงชิงชัย แค่ 2 ชนิดกีฬา ในมวยาสากลสมัครเล่นหญิง และกอล์ฟหญิง ดังนี้
น้องแต้วแพ้คู่ปรับได้แค่ทองแดง
มวยสากลสมัครเล่นรุ่นไลต์เวตหญิง (60 กก.) ที่สนามซูโม่โกคุกิคัง อารีนา เมื่อ 5 ส.ค.ที่ผ่านมา “น้องแต้ว” สุดาพร สีสอนดี สาวอุดรธานีวัย 30 ปี ความหวังหนึ่งเดียวของไทย ที่มาถึงรอบนี้ พบกับมือ 1 และเต็ง 1 ของรุ่นนี้ เคลลี แอนน์ แฮร์ริงตัน จากไอร์แลนด์ ทั้งคู่เคยเจอกันมาก่อน 1 ครั้ง “น้องแต้ว” ดีกรีแชมป์ซีเกมส์ และเหรียญเงินเอเชี่ยนเกมส์ 2018 เคยแพ้คะแนน แฮร์ริงตัน นักชกไอร์แลนด์วัย 31 ปีมาก่อน ในรอบชิงมวยสากลสมัครเล่นหญิงชิงแชมป์โลก 2018 ครั้งนี้จึงเป็นการล้างตากันอีกครั้ง ซึ่ง “น้องแต้ว” ที่สูง 162 ซม. เสียเปรียบช่วงชก แฮร์ริงตัน ที่สูง 169 ซม.
เปิดฉากยกแรก ทั้งคู่เป็นมวยชิงจังหวะสองสไตล์ใกล้เคียงกัน สุดาพร ในมุมน้ำเงิน เป็นมวยซ้าย ขณะที่ เคลลี เปลี่ยนชกได้ทั้ง 2 แบบ ช่วงแรกต่างคอยระวังกัน ไม่กล้าผลีผลาม จนกรรมการชาวตูนิเซีย บนเวทีเตือนให้เร่งเข้าทำกัน สุดาพร จึงขยับเข้าหา พยามชิงจังหวะออกหมัดก่อน และขยันต่อยมากกว่า แต่ไม่ค่อยโดนจัง ๆ ส่วน เคลลี อาศัยช่วงยาว คอยแย็บสกัดทำลายจังหวะ หาโอกาสต่อยชัด ๆ เกมสูสี แต้ว ขยันต่อยขยันทำ ส่วน เคลลี มาดักได้ 2 หมัดในช่วงปลายยก จบยกแรก กองเชียร์ไทย ที่มีทั้งเจ้าหน้าที่ และสื่อมวลชน เฮเพราะดูเราต่อยมากกว่า แต่คะแนนออกมา กรรมการ 5 คน ให้ เคลลี นำ 3-2 เสียง
ขึ้น ยกสอง เคลลี อาศัยช่วงชกที่ยาวกว่าขว้างหมัดขวาโจมตี จังหวะที่ สุดาพร เข้าต่อย ช่วงแรก “น้องแต้ว” มีจังหวะทิ่มซ้ายสวย ๆ เข้าใบหน้าสลับลำตัว แต่จังหวะจะวนออก ก็โดน เคลลี ฉายเป็นชุด ปลายยกสองทั้งคู่บวกหมัดกันอีกชุด แต้ว ยังได้ลูกขยัน และพลาดช่วงปลายยก หมดยก 2 เคลลี ยังนำ 3-2
ขึ้นยก 3 เคลลี ออกมาชิงต่อยก่อน เข้าใบหน้า 2 หมัดซ้อน และพยายามรุกไล่หวังทำแต้มให้ขาด ทำให้อยู่ในระยะใกล้ โดน “น้องแต้ว” ดักบวกเข้าลำตัวสลับใบหน้าได้จัง ๆ ชัดเจน ทำให้ยกนี้ดูดีว่าชัดเจน ทำให้คะแนนในยกนี้ กรรมการให้ “น้องแต้ว” ชนะ 3-2 เสียง แต่เมื่อรวมคะแนนกันทั้ง 3 ยก เคลีเฉือนชนะไป 3-2 เสียง แบบสูสีสุด ๆ ที่คะแนน 29-28 ,29-28, 28-29, 29-28 และ 28-29 ย้ำแค้น “น้องแต้ว” อีกครั้ง ลอยลำเข้ารอบชิงฯ ไปเจอ เบียทริซ แฟร์ไรรา สาวบราซิล แชมป์โลกรุ่น ไลต์เวต ปี 2019 ที่ทุบเอาชนะ โยฮานนา พอตโคเนน จากฟินแลนด์
ขณะที่ “น้องแต้ว” สุดาพร สีสอนดี จบเส้นทางโอลิมปิกเกมส์ ครั้งนี้ที่ รอบรองชนะเลิศ ได้เหรียญทองแดง แต่ยังสร้างประวัติศาสตร์ คว้าเหรียญรางวัลโอลิมปิกเหรียญแรกให้กับวงการมวยสากลสมัครเล่นหญิงของไทย นับตั้งแต่มีการบรรจุมวยหญิงเข้าสู่กีฬาโอลิมปิก ตั้งแต่กีฬาโอบลิมปิก 2012
“น้องแต้ว” รับแพ้ขอแก้ตัวที่ปารีส
หลังชก “น้องแต้ว” สุดาพร สีสอนดี นักชกสาวทีมชาติไทย เปิดใจทั้งน้ำตา ว่า แม้ทำได้เแค่นี้ ก็ถือว่าเป็นความฝันแล้วที่ได้เหรียญทองแดง ไม่กลับมือบ้านมือเปล่า ภูมิใจที่ตัวเองทำเต็มที่แล้ว แม้ไม่เป็นไปตามที่ตั้งใจ ยอมรับคำตัดสินที่คะแนนออกมาแพ้สูสี 2-3 เสียง จุดที่ทำให้ แฮร์ริงตัน เฉือนเอาชนะเราได้ เพราะเขาเป็นมวยฝีมือชกยาก เปลี่ยนจังหวะการชก และทำลายจังหวะการชกเราได้ดีมาก มีสเต็ปการชกที่ดี ทำให้เราเข้าต่อยลำบาก ส่วนอนาคตจากนี้ก็ต้องกลับไปดูสภาพร่างกายของตัวเองก่อน ถ้ายังไหวก็ต้องหมั่นฝึกซ้อม พัฒนาตัวเอง เพื่อกลับมาให้ได้ในโอลิมปิกหนหน้า หรือโอลิมปิก 2024 ที่กรุงปารีส ก่อนชกไฟต์นี้ แม่ก็โทรฯ มาบอกว่า ไม่ต้องคิดอะไรมาก ให้ทำเต็มที่ ทำให้ดีที่สุด ซึ่งเราทำเต็มที่แล้ว
แฮร์ริงตันชม “น้องแต้ว” ชกดีมาก
ด้าน แฮร์ริงตัน เผยว่า ไฟต์นี้ “น้องแต้ว” สุดาพร ชกดีมาก ดีกว่าที่เคยเจอกับสุดาพร ในปี 2018 กว่าจะชนะได้ เหนื่อยสุด ๆ เป็นไฟต์ที่ต้องใช้สมองสุด ๆ ใช้ฝีมือ ชิงจังหวะ ชนิดที่พลาดไม่ได่แม้แต่นิดเดียว วินาทีเดียว จังหวะฝีมือการชกของ สุดาพร ดีมาก จนตนเองเข้าใกล้ไม่ได้เลย เพราะหมัดซ้ายของ “น้องแต้ว” หนักมาก เพียงแต่ว่า ไฟต์นี้ หมัดของตนเข้าเป้าชัดเจนกว่า ส่วน “น้องแต้ว” ขยันต่อย แต่โดยไม่เต็ม แค่ถาก ๆ คิดว่าตนเองต่อยได้จะแจ้งกว่า ด้วยการพยายามอดทน และไม่บุ่มบ่าม เป็นจุดสำคัญให้เอาชนะมาได้ ต่อยกับ สุดาพร เข้ามั่ว ๆ ใจร้อนไม่ได้เลย ขณะที่ สื่อไอร์แลนด์ ก็ชมว่า สุดาพร ชกดีมาก ทำให้พวกตนเป็นกังวลกับผลการชกมาก
“แต้ว” เฮได้ติดดาวสมใจ
นอกจากนั้นหลังชกในวันเดียวกัน “น้องแต้ว” ก็ได้รับข่าวดี เมื่อว่าที่ เรือโทหญิง พุทธรักษา โรคารักษ์ ผู้ช่วยโฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ภายหลังจาก อาสาสมัครทหารพรานหญิง สุดาพร สีสอนดี นักกีฬามวยสากลหญิง รุ่น 60 กก. สังกัดกองทัพเรือ ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่ง ผ่านเข้าสู่รอบ 4 คน สุดท้าย โดยแม้จะพ่ายให้แก่ เคลลี แอนน์ แฮริงตัน จากไอร์แลนด์ แต่ อาสาสมัครทหารพรานหญิง สุดาพร ได้รับรางวัลเหรียญทองแดง ภายหลังเสร็จสิ้นการชก พลเรือเอก ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้โทรศัพท์ให้กำลังใจ ที่นำชัยชนะ เกียรติยศ และชื่อเสียงมาสู่ประเทศไทย โดยได้ติดตามรับชมมาโดยตลอดและเห็นว่า “แต้ว” ทำดีที่สุดแล้ว
ผู้ช่วยโฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยอีกว่า กองทัพเรือ โดย พลเรือเอก วศินสรรพ์ จันทวรินทร์ ประธานกรรมการบริหารสวัสดิการกีฬากองทัพเรือ ได้ขออนุมัติรางวัลพิเศษและการบรรจุเข้ารับราชการให้แก่อาสาสมัครทหารพรานหญิงจุฬาภรณ์ ตามหลักเกณฑ์การเสนอขอเลื่อนยศและการให้รางวัลพิเศษแก่นักกีฬาในสังกัดกองทัพเรือเป็นกรณีพิเศษ สำหรับ แต้ว ปัจจุบัน สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี จาก คณะศึกษาศาสตร์ สถาบันการพลศึกษาวิทยาเขตสุโขทัย และกำลังรออนุมัติการสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาโท คณะศึกษาศาสตร์ เอกสังคมศาสนาและวัฒนธรรม วิทยาลัยทองสุข ซึ่งตามหลักเกณฑ์ การขอเลื่อนยศ และเลื่อนฐานะตามลำดับชั้นนั้น ในส่วนของผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ หรือคุณวุฒิปริญญาตรีขึ้นไปให้เสนอขอปรับวุฒิ และแต่งตั้งยศตามคุณวุฒิที่สำเร็จการศึกษา ซึ่งตามหลักเกณฑ์ผู้ที่สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีจะเข้ารับการบรรจุในระดับสัญญาบัตร ได้รับการแต่งตั้งยศเป็น เรือตรี
สำหรับ “น้องแต้ว” หรืออาสาสมัครทหารพรานหญิง สุดาพร สีสอนดี เกิดเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2534 ที่ อำเภอไชยวาน จังหวัดอุดรธานี ได้รับการบรรจุเป็น อาสาสมัครทหารพรานหญิง ที่หน่วยบัญชาการนาวิกโยธินในปี 2556 ปัจจุบันสังกัด กองร้อย ทหารพรานนาวิกโยธินที่ 524 ชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานนาวิกโยธิน
“บิ๊กตู่”ร่วมยินดีชื่นชมด้วย
นอกจากนั้น นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม แสดงความยินดีกับ สุดาพร สีสอนดี นักกีฬามวยสากลหญิงทีมชาติไทย และสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย ที่สามารถสร้างประวัติศาสตร์ คว้าเหรียญรางวัลแรก ให้กับวงการนักกีฬามวยสากลหญิงทีมชาติไทยในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก
“ถึงแม้ ผลการแข่งขันของ สุดาพร จะพ่ายแพ้ เคลลี แฮร์ริงตัน นักมวยสากลหญิง ทีมชาติไอร์แลนด์ ในการแข่งขันรุ่นน้ำหนัก 60 กิโลกรัม รอบรองชนะเลิศ ไปด้วยคะแนน 2-3 เสียง แต่ก็สามารถคว้าเหรียญทองแดงในการแข่งขันมาได้ และผลงานการแข่งขันที่ผ่านมาของสุดาพร ก็สามารถทำได้อย่างยอดเยี่ยม น่าชื่นชม มีความมุ่งมั่น ทำหน้าที่ของตนเองอย่างดีเยี่ยม แสดงถึงน้ำใจนักกีฬา ได้ร่วมแสดงความยินดีกับนักกีฬาคู่แข่ง”
โฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่าจากการแข่งขันของนักกีฬาไทย เป็นที่น่าชื่นใจ และขอขอบคุณทุกคนที่ได้ไปร่วมการแข่งขันอย่างมีสปิริต ไม่ว่าจะได้รับชัยชนะหรือไม่ แต่ทุกคนมีส่วนร่วมสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย ซึ่งการแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้ ยังไม่สิ้นสุด ขอให้ร่วมเป็นกำลังใจให้นักกีฬาทุกคนที่เข้าร่วมการแข่งขันต่อไป
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีฝากขอบคุณกับทัพนักกีฬาไทยทุกประเภทที่ได้ร่วมการแข่งขัน พร้อมเชิญชวนชาวไทยให้ร่วมส่งกำลังใจให้กับนักกีฬาไทยที่ยังทำการแข่งขันในกีฬาโอลิมปิก โตเกียว 2020 นี้
แจงรับเงินอัดฉีดเพียบ
ส่วนเงินรางวัลอัดฉีดเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้สำหรับ “น้องแต้ว” นั้นในเบื้องต้นจะได้รับเงินรางวัลจากกองทุนพัฒนากีฬาแห่งชาติ การกีฬาแห่งประเทศไทย จำนวน 4.8 ล้านบาท ตามหลักเกณฑ์จ่าย 50 เปอร์เซ็นต์ และแบ่งจ่ายรายเดือนเป็นเวลา 4 ปี รวมทั้งยังได้รับเงินอัดฉีดพิเศษจาก บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) มอบเงินรางวัลอัดฉีดพิเศษ 2 ล้านบาท
นอกจากนี้ คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ กำหนดให้เงินรางวัลนักกีฬาที่ได้รับเหรียญโอลิมปิกเกมส์เป็นรายเดือน รวมเวลา 20 ปี เหรียญทอง เดือนละ 12,000 บาท เหรียญเงิน 10,000 บาท และเหรียญทองแดง 8,000 บาท โดยสุดาพรจะได้รับเงินเดือน 8,000 บาท รวมเป็นระยะเวลา 20 ปี เป็นเงิน 1,920,000 บาท รวมทั้งสิ้นน้องแต้วรับเงินรางวัลอัดฉีดเบื้องต้นแล้ว 8,720,000 บาท