เมื่อวันที่ 15 ก.ค. สมาคมกีฬาแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ จัดให้มีพิธีลงนามความร่วมมือ (MOU) กับ สมาคมกีฬาแบดมินตันของจีน เพื่อร่วมมือระหว่างกันในการพัฒนากีฬาแบดมินตันสู่ความเป็นเลิศ ส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างสองสมาคม ที่สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีน ประจำประเทศไทย โดยมี มร.หาน จื้อเฉียง เอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย, คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล นายกสมาคมกีฬาแบดมินตันฯ, มร.จาง จุ้น ประธานสมาคมกีฬาแบดมินตันของจีน และ พล.อ.อ.มณฑล สัชฌุกร อุปนายกสมาคมกีฬาแบดมินตันฯ ร่วมลงนาม

คุณหญิงปัทมา กล่าวว่า บันทึกข้อตกลงความร่วมมือกันระหว่าง 2 ประเทศ ครั้งนี้เป็นครั้งแรกของสมาคมกีฬาแบดมินตันฯ ซึ่งทางจีนได้กำหนดสาขาความร่วมมือครอบคลุมไว้กว้างขวางและหลากหลาย ได้แก่ 1 การฝึกซ้อมของนักกีฬา 2 การฝึกอบรม แลกเปลี่ยน เพื่อให้ความรู้แก่ นักกีฬา ผู้ฝึกสอน กรรมการ ผู้ตัดสิน บุคลากรด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา ผู้บริหารสมาคม และบุคลากรการกีฬา 3 การพัฒนาการแข่งขันกีฬาแบดมินตันทั้งในระดับเยาวชนและอาวุโส ในการแข่งขันต่างๆ 4 การแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับระบบการฝึกซ้อมและพัฒนากีฬาแบดมินตันการจัดโครงการความร่วมมือต่างๆ และอีกมาก

สำหรับการพัฒนานักกีฬาต้องใช้เวลา ดังนั้นความร่วมมือครั้งนี้จะนำไปสู่การวางแผนทั้งระยะสั้นและระยะยาว ที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของวงการกีฬาแบดมินตันไทย ซึ่งแน่นอนว่าเราคงไม่สามารถทำตามสิ่งที่จีนในฐานะมหาอำนาจกีฬาแบดมินตัน ทำมาได้ทั้งหมด เพราะความแตกต่างในหลากหลายมิติ ทั้งเรื่องงบประมาณ ทรัพยากรกีฬาแบดมินตัน แต่ที่แน่ๆ ความร่วมมือครั้งนี้จะทำให้เรามีแนวทางการดำเนินการและการพัฒนาที่ชัดเจนมากขึ้นอย่างแน่นอน

“ปัจจุบันต้องยอมรับว่านักกีฬาจีนมีความแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่ง ดังนั้นเราคงต้องให้ความสำคัญกับเรื่องการพัฒนาทั้งทางด้านร่างกายให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น ควบคู่ไปกับพัฒนาด้านทักษะ ซึ่งในปัจจุบันนี้นักกีฬาไทย ก็มีทักษะที่ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่าชาติอื่นๆ เลย ปัทมาเชื่อว่าถ้านักกีฬาไทยสามารถพัฒนาทั้ง 2 ด้าน ให้มีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกัน เมื่อนั้นเราอาจจะได้เทียบเคียงกับนักกีฬาชั้นนำระดับโลกรวมถึงจีนด้วย”

คุณหญิงปัทมา กล่าวต่อว่า นักแบดมินตันไทย จะก้าวขึ้นไปในระดับท็อปของโลก ต้องมีการวางรากฐานและพัฒนานักกีฬารุ่นใหม่ๆ ตั้งแต่ระดับยุวชน หากดำเนินการตามบันทึกข้อตกลงนี้ สมาคมฯ หวังว่าเยาวชนไทยจะได้มีโอกาสเข้าร่วมฝึกซ้อมกับทีมชาติจีน รวมถึงการเรียนรู้ระบบการเตรียมตัวของนักกีฬา ทั้งในขณะซ้อมและการแข่งขัน เราจะปลูกฝังและเริ่มต้นในเรื่องนี้ตั้งแต่รุ่นเด็กเยาวชน จะสามารถต่อยอดให้นักกีฬาประสบความสำเร็จในระดับโลกได้ ในฐานะนายกสมาคมฯ จะผลักดันเรื่องนี้สม่ำเสมอและขอความร่วมมือจากจีนอย่างเป็นรูปธรรมให้ได้มากที่สุด

“สมาคมฯ มีแผนที่จะส่งนักกีฬาเยาวชนไทยไปฝึกซ้อมในต่างประเทศอยู่แล้ว ซึ่งจีนก็เป็นหนึ่งประเทศในนั้นอย่างแน่นอน ตอนนี้ยังติดปัญหาเรื่องการกักตัวและมาตรการโควิด ทำให้ทั้ง 2 ฝ่าย ต้องชะลอการดำเนินการออกไปก่อน ตามข้อตกลงฉบับนี้ มีโครงการแลกเปลี่ยนนักกีฬาและโค้ช จัดการอบรม การฝึกซ้อม โดยจะมีการแลกเปลี่ยนการเยือนกันด้วย ซึ่งจะเป็นโอกาสให้นักกีฬาของไทยได้มีโอกาสฝึกซ้อม ได้เรียนรู้เทคนิคต่างๆ กับนักกีฬาของจีน” นายกแบดมินตันไทย กล่าว