เมื่อวันที่ 13 ก.ค. ที่โรงแรมเดวิสสุขุมวิท 24 กรุงเทพฯ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง จัดแถลงข่าวเปิดโปงกลุ่มทุนนักธุรกิจจีนฮุบธุรกิจสีเทาในไทย ภายหลังได้โพสต์แฉผับใหญ่กลางกรุงเปิดเกินเวลา โดยข้อความระบุว่า นานๆ​ จะ แฉ สักครั้ง ผับใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ ปิดตี 4 หากตำรวจเข้าตรวจ ชูวิทย์รับประกัน ใส่แว่นดำเกินครึ่ง สีม่วงเกิน 50% ทั้งเม็ด ทั้งผง ทั้งผับ เพราะของแข็ง สายดัง กระซิบนิด ชื่อย่อ “ท.” อยู่ใจกลางถนน “ร.” สี่แยก “ห.” ท้องที่ สน. “ส.” เจ้าของผับเป็นคนจีนชื่อ “เดวิด” เปิดมานานเหมือนเป็นคนไทย แต่ทุนจีนอาศัยคอนเนกชั่นไทยแลนด์แดนสไมล์ เปิดใหญ่ไม่เกรงใจใคร ให้รู้เสียหน่อย ผบ.ตร. คนนี้ เคลียร์ไม่ได้ อย่าคิดว่าคนไทยใช้เงินฟาดหัวเอาได้หมด เยาวชนไทยมั่วสุมแบบนี้ อนาคตจะไปอยู่ไหน?… ไม่ใช่สายเขียวนะครับ มันสายดำเลย หากไม่เชื่อ ผมพาไปเองได้ตอนตี 1 เดาอักษรย่อเอาเองแล้วกัน เดี๋ยวจะหาว่าผมตีเมืองขึ้น ส่วนเรื่องบ่อนเดี๋ยวค่อยตามมาเร็วๆ นี้

นายชูวิทย์ กล่าวว่า ตนไม่ได้ต้องการชื่อเสียง แต่ตนคิดว่าการทำแบบนี้เกินไป ซึ่งตำรวจไปตรวจก็บอกว่าสถานที่นั้นถูกต้อง ไม่มียาเสพติด แต่ตนคิดว่าชาวบ้านเชื่อตน เพราะที่ผ่านมาตนทำเรื่องนี้จนเป็นที่ประจักษ์ ถ้ามุกวันนี้มีการลงทุนจากต่างชาติ คนไทยไม่ต้องดีใจเพราะมีเงินเข้าประเทศ แต่ขณะนี้ไม่ใช่แบบนั้นแล้ว เพราะคนจีนบุกธุรกิจสีเทาของไทย ซึ่งทุนจีนเข้ามาครอบงำธุรกิจสีเทา อย่างบ่อนการพนัน ผับ บาร์ โดยมีการใช้เงินถึง 4-5 ร้อยล้าน ที่เข้ามาอย่างไม่ถูกต้องเพื่อเข้ามาฟอกเงิน

เอาแล้ว!​ ‘ชูวิทย์’แฉผับใหญ่กลางกรุงปิดตี4 คอนเนกชั่นปึ้กผบ.ตร.ยังเคลียร์ไม่ได้

ไร้ผับเส้นใหญ่! ตร. ตอบกลับ ‘ชูวิทย์’ ยันตรวจแล้ว ‘ปิดตามเวลา-ไร้สารเสพติด

“ส่วนนายเดวิด ซึ่งเป็นคนจีน ดึงทุนจีนเข้ามาเปิดที่ไทย รวมทั้งบ่อนที่ตึกเอ ซึ่งตนขอถามว่าบ่อนนี้รอวันจะกลับมาเปิดอีกครั้งใช่หรือไม่ ซึ่งบ่อนที่ว่าทุกอย่างในบ่อนเป็นของจีนหมด ทั้งน้ำที่ขายและคนที่เข้าไปเที่ยว ก็คือทุกวันนี้ทุนไทยไม่เหลือแล้ว เพราะมีทุนจีนธุรกิจสีเทาแบบนี้เข้ามา เพราะแต่ละที่มีความใหญ่โตมโหฬาร ขอถามว่าได้ไปดูเส้นทางการเงินของกลุ่มคนพวกนี้หรือไม่ และใครเป็นนอมินี และคนไทยประเทศไทยได้อะไรจากสิ่งเหล่านี้ โดยตนขอเตือนสติ ซึ่งตนอาจจะส่งข่อมูลให้ฝ่ายค้านก็ได้ ถ้าฝ่ายค้านกล้าพูดเรื่องนี้” นายชูวิทย์ กล่าว

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รอง ผบช.น. ได้ออกมาเปิดเผยถึงเรื่องดังกล่าวว่า เบื้องต้นสั่งการให้ตำรวจ สน.สุทธิสาร ลงพื้นที่ตรวจสอบแล้วพบเป็นสถานบริการประเภทผับ-บาร์แห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ถนนรัชดาภิเษก ช่วงสี่แยกห้วยขวาง กรุงเทพฯ จากการตรวจสอบหาสารเสพติดผู้มาใช้บริการ ไม่พบว่ามีสารเสพติด รวมถึงยาเสพติดในร้านแต่อย่างใด และตรวจใบอนุญาตพบว่าถูกต้องตามกฎหมาย รวมถึงปิดตามเวลาที่กำหนดอีกด้วย.