นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า ตามที่ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) กำหนดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดรวม 29 จังหวัด เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ขบ. จึงกำหนดมาตรการให้สอดคล้องกับข้อกำหนดดังกล่าว ส่วนให้บริการเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะและการขนส่งสินค้า มีผลตั้งแต่วันที่ 3 ส.ค.64 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลงดังนี้

การให้บริการเดินทางด้วยรถโดยสารสาธารณะทุกประเภท ที่มีจุดต้นทางปลายทางจากจังหวัดที่กำหนดเป็นเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด งดให้บริการเดินรถโดยสารประจำทางเข้า-ออกพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และ จำกัดการเดินรถระหว่างเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดเฉพาะเท่าที่จำเป็น ต้องหยุดให้บริการเวลา 21.00-04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น

นอกจากนี้ให้บริการรถโดยสารสาธารณะภาพรวมทั้งประเทศ ผู้ประกอบการขนส่งต้องดำเนินการตามมาตรการเพื่อควบคุมการแพร่กระจายของโรคอย่างเคร่งครัด เช่น คัดกรองผู้โดยสาร กำหนดจำนวนผู้โดยสารไม่เกินร้อยละ 50 ของจำนวนที่นั่งทั้งหมด เว้นระยะห่าง จัดที่นั่งรถโดยสารประจำทางและรถโดยสารไม่ประจำทาง จัดที่นั่ง 1 ที่นั่ง เว้น 1 ที่นั่ง บริหารจัดการจำนวนรถและเที่ยววิ่งเพียงพอต่อความจำเป็นและตามเวลาที่เหมาะสมกับการเดินทางประชาชน ระหว่างให้บริการห้ามลงจากรถระหว่างทางหรือในสถานที่ซึ่งมิใช่ที่หยุดหรือจอดตามที่กำหนดไว้ เพื่อให้ตรวจคัดกรองผู้โดยสารตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเต็มประสิทธิภาพ

ส่วนการขนส่งสินค้าภาพรวมทั่วประเทศ งดการขนส่งในช่วงตั้งแต่เวลา 21.00-04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น เว้นแต่ผู้ที่มีความจำเป็นในการขนส่งสินค้าเพื่อประโยชน์ของประชาชน ได้แก่ ผู้ขนส่งอาหาร ยา เวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ สินค้าอุปโภคบริโภค ผลผลิตทางการเกษตร น้ำมันเชื้อเพลิง ไปรษณียภัณฑ์ พัสดุภัณฑ์ สิ่งพิมพ์ หรือสินค้าเพื่อการส่งออกหรือนำเข้า สามารถขนส่งสินค้าได้

รวมถึงการขนส่งเที่ยวเปล่าหรือตู้สินค้าเปล่าในกรณีเดินทางไปรับสินค้าและเดินทางกลับ โดยจัดเตรียมใบอนุญาตขับรถ บัตรประจำตัวประชาชน บัตรประจำตัวพนักงานหรือหนังสือรับรองการทำงาน และเอกสารรับรองความจำเป็นเกี่ยวกับสินค้าและการเดินทางของผู้ขนส่งสินค้าเพื่อใช้แสดงต่อเจ้าหน้าที่ และต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคอย่างเคร่งครัด