นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า สถิติการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจโฆษณาในช่วง 6 เดือนปี 64 (ม.ค.-มิ.ย.) มีการจดทะเบียนใหม่ 557 ราย เพิ่มขึ้น 26.59% จากปีก่อน และมีทุนจดทะเบียน 893 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 59.39% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการจัดตั้งธุรกิจโฆษณาสำหรับช่องทางดิจิทัล หลังพบว่าการแพร่ระบาดของโควิด ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป มีการทำงานที่บ้านและเรียนออนไลน์มากขึ้น ส่งผลให้ยอดใช้งานอินเทอร์เน็ต โซเชียลมีเดีย และการรับชมทีวีผ่านอินเทอร์เน็ตขยายตัว ซึ่งทำให้โฆษณาผ่านช่องทางเหล่านี้เติบโตตาม

“อีกปัจจัยสนับสนุนธุรกิจโฆษณาดิจิทัลให้เติบโต คือ ภาคธุรกิจสามารถเลือกช่องทางการตลาดให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุดมากขึ้น มีแพลตฟอร์มที่เข้าถึงได้ง่ายและรวดเร็ว และการมีเทคโนโลยีที่สามารถรองรับให้ผู้บริโภคเปิดรับสื่อได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะช่องทางโซเชียลมีเดียที่มีการเติบโตของการลงเงินโฆษณาถึง 20% โดยสื่อดิจิทัลที่มีเม็ดเงินลงทุน ได้แก่ เฟซบุ๊ก 32% ยูทูบ 23% และติ๊กต็อกมีแนวโน้มการเติบโตสูงอยู่ที่ 21% โดยการลงทุนในแต่ละสื่อมีมูลค่าเม็ดเงินสูงถึงพันล้านบาท”

ทั้งนี้สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิดทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป  โดยมีสถิติการใช้อินเทอร์เน็ตบนมือถือของผู้ใช้งานอายุระหว่าง 16-64 ปี เฉลี่ย 5.07 ชั่วโมงต่อวัน มากเป็นอันดับที่ 3 ของโลก และหากนับรวมการใช้อินเทอร์เน็ตทั้งระบบ คนไทยมีการใช้อินเทอร์เน็ตเพิ่มขึ้นเป็นเฉลี่ยวันละ 10 ชั่วโมง หรือคิดเป็น 41% ของ 1 วัน ดังนั้น ภาคธุรกิจจึงให้ความสำคัญและหันมาประกอบธุรกิจ ทำการตลาดบนโลกออนไลน์มากขึ้น

ปัจจุบันประเทศไทยมีธุรกิจโฆษณาที่ดำเนินกิจการอยู่จำนวนทั้งสิ้น 10,293 ราย คิดเป็น 1.28% ของธุรกิจทั้งหมดที่ดำเนินกิจการอยู่ และมูลค่าทุนรวม 52,668 ล้านบาท คิดเป็น 0.27% ของมูลค่าทุนธุรกิจที่ดำเนินกิจการอยู่ ส่วนใหญ่ดำเนินกิจการในรูปแบบบริษัทจำกัด 8,868 ราย คิดเป็น 86.15% มูลค่าทุนรวม 43,541 ล้านบาท คิดเป็น 82.67%