เมื่อวันที่ 4 ส.ค. นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยผลการเฝ้าระวังสายพันธุ์โควิด-19 ในประเทศไทย ว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ เครือข่ายห้องปฏิบัติการว่า แนวโน้มในภาพรวมของประเทศจากข้อมูลการเฝ้าระวังระหว่างวันที่ 24-30 ก.ค. จากการสุ่มตรวจผู้ติดเชื้อทั้งหมด 2,547 ราย เป็นสายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) จำนวน 1,993 ราย คิดเป็น 78.2% สายพันธุ์อัลฟา (อังกฤษ) จำนวน 538 ราย คิดเป็น 21.2% และสายพันธุ์เบตา (แอฟริกาใต้) จำนวน 16 ราย คิดเป็น 0.6%
โดยในพื้นที่กรุงเทพมหานครสุ่มตรวจ 1,229 ราย เป็นสายพันธุ์เดลตา 1,059 ราย คิดเป็น 86.2% สายพันธุ์อัลฟา 170 ราย คิดเป็น 13.8% ส่วนสายพันธุ์เบตาไม่พบผู้ติดเชื้อ ขณะที่ส่วนภูมิภาคสุ่มตรวจ จำนวน 1,318 ราย เป็นสายพันธุ์เดลตา 934 ราย คิดเป็น 70.9% สายพันธุ์อัลฟา 368 ราย คิดเป็น 27.9% และสายพันธุ์เบตา 16 ราย คิดเป็น 1.2% โดยขณะนี้พบสายพันธุ์เดลตาใน 74 จังหวัด ส่วนสายพันธุ์เบตาสัปดาห์นี้พบเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ พบมากที่สุดที่จังหวัดยะลา 14 ราย จังหวัดสงขลาและตรังจังหวัดละ 1 ราย
สำหรับสายพันธุ์แลมบ์ดาที่พบในแถบประเทศอเมริกาใต้ ยังไม่พบในประเทศไทยแต่อย่างใด และยังเป็นเพียงสายพันธุ์ที่น่าสนใจ (Variant of Interest) ตามการแบ่งระดับขององค์การอนามัยโลก (WHO).