เมื่อวันที่ 4 ส.ค. นายกิตติพันธ์ ปานจันทร์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยว่า ได้ลงนามในประกาศ ขร. เรื่อง มาตรการพึงปฏิบัติการจัดการระบบขนส่งทางรางภายใต้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักรเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ฉบับที่ 12 เพื่อให้สอดรับกับการประกาศขยายระยะเวลาการบังคับใช้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และมาตรการสำหรับพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (สีแดงเข้ม) ของรัฐบาล เพื่อควบคุมสถานการณ์การระบาดของโรคให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และป้องกันมิให้ทวีความรุนแรงขึ้น

นายกิตติพันธ์ กล่าวต่อว่า สำหรับประกาศดังกล่าว ได้ขอความร่วมมือหน่วยงานที่ให้บริการขนส่งทางรางทุกระบบปฏิบัติดังนี้ 1. ขยายเวลาการบังคับใช้ความตามประกาศฯ ไปจนถึงวันที่ 31 ส.ค.64, 2. กรณีขบวนรถโดยสารประเภทรถไฟทางไกล ให้ดำเนินการดังนี้ 2.1 จำกัด หรือลดการบริการระบบรถไฟโดยสารข้ามเขตพื้นที่จังหวัดที่มีต้นทางหรือปลายทางภายในจังหวัดที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 29 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ กาญจนบุรี ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ตาก นครปฐม นครนายก นครราชสีมา นราธิวาส นนทบุรี ปทุมธานี ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี ปัตตานี พระนครศรีอยุธยา เพชรบุรี เพชรบูรณ์ ยะลา ระยอง ราชบุรี ลพบุรี สงขลา สิงห์บุรี สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สระบุรี สุพรรณบุรี และอ่างทอง ระหว่างวันที่ 3-31 ส.ค.64

2.2 กรณีรถไฟโดยสารเข้าและออกพื้นที่จังหวัดที่กำหนดให้เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ให้มีจุดคัดกรองและจัดเจ้าหน้าที่ในการตรวจคัดกรองผู้โดยสารโดยเคร่งครัดตลอดเวลา โดยกำหนดให้ผู้โดยสารต้องเตรียมเอกสาร/หลักฐานยืนยันตน พร้อมแสดงแก่เจ้าหน้าที่ ได้แก่ บัตรประจำตัวประชาชนหรือหนังสือเดินทาง เอกสารยืนยันการอนุญาตเดินทางตามที่ราชการกำหนด การแจ้งข้อมูลในแอพพลิเคชั่นไทยชนะ และต้องลงทะเบียนขออนุญาตเดินทาง ในเว็บไซต์ “หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” https://covid-19.in.th เพื่อรับ QR Code สำหรับแสดงให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ หากตรวจพบว่าผู้โดยสารไม่มีเอกสารหลักฐานยืนยันให้พิจารณาสงวนสิทธิ์ในการให้บริการ

3. กรณีขบวนรถโดยสารประเภทรถไฟชานเมืองและรถไฟท้องถิ่น ให้ดำเนินการดังนี้ 3.1 จำกัดการบริการเดินรถไฟโดยสารประเภทรถไฟชานเมืองและรถไฟท้องถิ่น เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนงดเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัด เพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของโรค 3.2 ให้มีจุดคัดกรองและจัดเจ้าหน้าที่ตรวจคัดกรองผู้โดยสารโดยเคร่งครัดที่สถานี ป้ายหยุดรถและที่หยุดรถ และเพิ่มความเข้มงวดสูงสุดในการกำกับดูแลให้ผู้โดยสารปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรค 4. ให้เพิ่มความเข้มงวดและรัดกุม ในการปฏิบัติมาตรการต่างๆ เพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ในผู้ปฏิบัติงาน ได้แก่ การตรวจคัดกรองอุณหภูมิของผู้ปฏิบัติงานก่อนปฏิบัติงาน กำกับดูแลผู้ปฏิบัติงาน สวมถุงมือ และอุปกรณ์ป้องกันการสัมผัสโรคตามความเหมาะสม การใช้สบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ก่อน และหลังปฏิบัติงาน การตรวจคัดกรองเชิงรุก เป็นต้น

5. ประกาศ แจ้งหรือประชาสัมพันธ์ในช่องทางต่างๆ ให้ประชาชนทราบ และขอความร่วมมือชะลอการเดินทางที่ไม่มีเหตุจำเป็น 6. ให้ตรวจค้นหาผู้ติดเชื้อฯ เชิงรุก ในกลุ่มแรงงานก่อสร้างภายในพื้นที่โครงการก่อสร้างระบบขนส่งทางรางที่อยู่ในความรับผิดชอบ และให้เคร่งครัดการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมและป้องกันโรคที่ราชการกำหนดโดยเคร่งครัด ทั้งนี้ ขร.หวังว่าประกาศดังกล่าวจะเป็นส่วนหนึ่งในการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้บริการระบบขนส่งทางรางต่อไป.