เมื่อวันที่ 11 ก.ค. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผบช.น. แถลงข่าวจับกุมผู้ต้องหาตระเวนวิ่งราวทรัพย์ทั่วกรุงเทพฯ 2 ราย คือ 1.นายประเวช ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลอาญาที่ 1383/2565 ลง 7 ก.ค. 2565 ข้อหา “วิ่งราวทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะ” พร้อมของกลาง โทรศัพท์มือถือ เสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ อาวุธปืน รถจักรยานยนต์ โดยจับกุมได้ที่บ้านพัก ต.บ้านคลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ 2. นาย ศตวรรษ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาที่ 1401/2565 ลง 8 ก.ค. 2565 ข้อหา “ร่วมกันวิ่งราวทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะฯ” พร้อมของกลาง โทรศัพท์มือถือ เสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ และรถจักรยานยนต์ที่ยืมมาก่อเหตุ โดยจับกุมได้ที่บ้านพักถนนพระราม 3 แขวงบางโพงพาง เขตยานนาวา กทม.
สืบเนื่องจากในห้วงปี 2565 เจ้าหน้าที่สืบทราบว่าเกิดเหตุคนร้ายวิ่งราวทรัพย์ในหลายพื้นที่ทั่วเขต กทม. ซึ่งมีพฤติกรรมลักษณะเดียวกันหลายท้องที่ รวม 9 คดี ประกอบด้วย สน.สุทธิสาร 3 คดี, สน.บางซื่อ 2 คดี, สน.ห้วยขวาง 1 คดี, สน.ท่าข้าม 1 คดี, สน.พญาไท 1 คดี และสน.พหลโยธิน อีก 1 คดี กระทั่งเจ้าหน้าที่ทำการสืบสวนเรื่อยมาจากการตรวจสอบวงจรปิดจนเชื่อว่าผู้ก่อเหตุคือ นายประเวช และนายศตวรรษ เนื่องจากพบว่า เส้นทางขณะมาก่อเหตุและเส้นทางหลบหนีสอดคล้องกับผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย เพราะทั้งสองคนปัจจุบันประกันตัวออกมาต่อสู้คดี และถูกศาลสั่งให้ติดกำไลข้อเท้าอีเอ็ม
ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจพบข้อพิรุธเกี่ยวกับกรณีสัญญาณกำไลอีเอ็ม ประกอบกับทางการสืบสวนปรากฏจากลักษณะการแต่งกาย ยานพาหนะ ต่อมาจึงได้วางแผนร่วมกับตำรวจท้องที่ที่เกิดเหตุและฝ่ายสืบสวนในพื้นที่ กระทั่งสามารถขออนุมัติศาลเพื่อออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย กระทั่งวันที่ 9 ก.ค. ติดตามไปจนสามารถจับกุมตัวไว้ได้ ซึ่งขณะจับกุมตัวนั้น นายประเวช ไม่ได้สวมใส่กำไลอีเอ็ม และจากการตรวจค้นพบกำไลดังกล่าวอยู่ที่บ้านพักตรอกบางอุทิศ แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม กทม. ในลักษณะชาร์จแบตเตอรี่ทิ้งไว้ ส่วนนายศตวรรษ ติดกำไลอีเอ็ม แต่ข้อมูลจีพีเอสในโทรศัพท์มือถือของนายศตวรรษ เคลื่อนที่ไม่สอดคล้องกับข้อมูลสัญญาณกำไลอีเอ็ม จึงจับกุมได้พร้อมของกลาง
จากการสอบสวน นายประเวช รับสารภาพว่า เป็นผู้ก่อเหตุที่ใช้รถจักรยานยนต์ PCX สีน้ำเงิน ส่วนนายศตวรรษ ยังไม่ขอให้การ และปฏิเสธเกี่ยวกับการกระทำผิด ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อใช้ในการสอบสวนพิสูจน์ความผิดของนายประเวช และนายศตวรรษ เพิ่มเติม
จากการตรวจสอบประวัติของนายประเวช พบประวัติคดีวิ่งราวทรัพย์ 5 คดี คดีบุกรุกเคหสถานเวลากลางคืน 1 คดี คดีต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน (ยิงต่อสู้) 1 คดี จำคุกตั้งแต่ปี 2560 พ้นโทษเมื่อวันที่ 26 ม.ค. 2564 ถูกจับกุมต่อเมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2565 ในคดี พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ อยู่ระหว่างประกันตัว และติดกำไลข้อเท้าอีเอ็ม ส่วนนายศตวรรษ พบประวัติวิ่งราวทรัพย์ จำคุกตั้งปี 2560 พ้นโทษเมื่อวันที่ 27 ม.ค. 2564 ถูกจับกุมต่อเมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2565 ในคดี พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ อยู่ระหว่างประกันตัว และติดกำไลข้อเท้าอีเอ็ม เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหาและนำตัวนายประเวช พร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.สุทธิสาร ส่วน นายศตวรรษ ถูกนำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป