เมื่อวันที่ 10 ก.ค. เวลา 07.30 น. ที่‍ สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ เขตบางบอน (หรือสวน 9 เนิน เดินตามรอยพ่อ) ภายหลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรม “Kick off ผู้ว่าฯ ท้าสื่อ ปลูกต้นไม้ล้านต้น” นายชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ว่าฯ กทม. ได้ให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชนที่มาปักหลักติดตามทำข่าวว่า ขอบคุณสื่อมวลชนทุกสำนักที่มาร่วมกิจกรรมปลูกต้นไม้ ที่สำคัญคือมันเป็นนโยบายที่ทางเราได้คิดไว้ตั้งแต่ต้น ตอนนั้นเราคิดนโยบายปลูกต้นไม้ล้านต้น ช่วงแรกคนหัวเราะเยาะว่าจะทำได้หรือไม่ แต่สุดท้ายเราก็ได้มาปลูกกัน กลายมาเป็นโครงการนี้ขึ้น ที่เราทำวันนี้อนาคตเราก็มีต้นไม้ให้ลูกหลานเรา มีร่มเงา มีชีวิตที่ดี และกรุงเทพฯยังมีสิ่งดีๆอีกเยอะเลย อยากจะให้สื่อช่วยกันเผยแพร่ด้วย การปลูกต้นไม้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เพราะจะทำให้เมืองร่มเย็น มีพื้นที่สีเขียวกันฝุ่น อยากจะบอกว่ากรุงเทพฯเป็นของทุกคนและเราจะทำหน้าที่ กทม.อย่างเต็มที่

นายชัชชาติ กล่าวอีกว่า การปลูกต้นไม้ อย่างกล้าไม้นั้น ทางกทม.มีรับบริจาค ถ้าใครอยากปลูกแต่ไม่มีต้นกล้ากทม. มีให้ และถ้ามีที่ก็ปลูกเองได้เลย แต่ถ้าไม่มีที่ปลูก กทม.จะหาที่ให้ ตอนนี้เป้าหมายคือในเวลา 4 ปี จะมีต้นไม้ล้านต้น ตกปีละ 250,000 ต้น และตอนนี้ผ่านไป 1เดือน ได้ 40,000 ต้นแล้ว อย่างไรก็ตามการเพิ่มพื้นที่สีเขียวใน กทม. ไม่ใช่เรื่องง่าย การที่เราเพิ่มการปลูก 1 ล้านต้น เป็นแค่เพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับพื้นที่ใน กทม. ดังนั้นโครงการนี้จึงเป็นโครงการระยะยาว ซึ่งต้องคอยติดตามอยู่เรื่อยๆ พร้อมย้ำว่ากรุงเทพฯไม่ใช่เเค่ของ กทม.คนเดียว แต่กรุงเทพฯ เป็นของพวกเราทุกคน ทาง กทม.จะร่วมมือกันทำให้เต็มที่ และพวกเราทั้งหมดเดินไปด้วยกันต่อจากนี้

นายชัชชาติกล่าวถึงท่อทิพย์ หรือท่อดัมมี่ ที่เป็นกระแสภายหลังกล่าวในไลฟ์สด ว่าเมื่อเช้านี้ได้สั่งการไปกับรองฯ จักกพันธุ์ ผิวงาม แล้ว ตนเข้าใจว่าเป็นปัญหาในส่วนของเส้นเลือดฝอย จริงๆเจ้าหน้าที่กวาดถนนเรามีหมื่นกว่าคน ถนนเส้นหลักทุกเส้นและถนนเส้นรองมีเจ้าหน้าที่ดูอยู่ ขอแค่ให้เจ้าหน้าที่แจ้งมา ดังนั้นการที่มีเจ้าหน้าที่กวาดถนนอยู่ทุกวัน วันละหนึ่งกิโลเมตร แล้วอย่างถนนในกรุงเทพฯ หนึ่งหมื่นคนก็หนึ่งหมื่นกิโลเมตร ไม่ว่าจะเป็นปัญหาจุดไฟดับ จุดน้ำท่วมตรงไหนที่เป็นปัญหาเรื่องเล็กๆ แต่เป็นเรื่องใหญ่ของพวกเรา เพียงแค่วันนี้จะเห็นปัญหาหมดเลย เดิมทีเราไม่เคยบอกว่ามันเป็นหน้าที่ของพวกเขา เพราะเขาทำหน้าที่ดูแลความสะอาด แต่ไม่ได้ทำหน้าที่แจ้งถึงอันตรายต่างๆ

แต่ตอนนี้เราได้ฝึกให้เจ้าหน้าที่ทำความสะอาดได้ลองใช้ทราฟฟี่ ฟองดูว์ เพื่อให้ทุกคนแจ้งถึงปัญหาและแจ้งกับหัวหน้าหน่วยรักษาความสะอาดของพวกเขาได้ ซึ่งใน 2 ทางก็จะทำให้เห็นปัญหาได้ ส่วนเมื่อวานที่เป็นปัญหาคือเหมือนว่าท่อระบายน้ำ มันจะเป็นท่อๆไปตามฟุตบาท บางท่ออุดตัน อาจจะมีการทำรับเหมาแล้วเอาเศษดินทิ้งไป ดังนั้นพนักงานกวาดจะเห็นเลยว่าจุดไหนมันตัน เพราะมันจะทำให้รถติด เนื่องจากน้ำท่วมเลนนึงบางทีแทนที่พนักงานจะได้กวาดขยะก็ต้องมากวาดน้ำลงท่อ แต่เพียงแค่ว่าแต่ก่อนเราไม่เคยบอกว่าการแจ้งปัญหานั้นเป็นหน้าที่ของเขา เขาไม่ได้รายงานเข้ามา ต่อไปแค่เปลี่ยนวิธีคิดของเขาว่าให้รายงานเข้ามา เดี๋ยวเราแก้ปัญหาให้หลังจากนี้ทุกคนก็ไม่ต้องรอคำสั่งจากผู้ว่าฯ กทม. เห็นอะไรปุ๊บก็แจ้งรายงานกันเข้ามาได้เลย รวมไปถึงตอนนี้ มีคนแจ้งมาผ่านทราฟฟี่ ฟองดูว์ กว่า 73,000 เรื่องแล้ว เราแก้ไปได้ 30,000 เรื่อง โดยที่ผู้ว่าฯ กทม.ไม่ต้องสั่งการอะไรเลยทำให้สะดวกและรวดเร็วขึ้นในการจัดการปัญหาเส้นเลือดฝอย

สำหรับการไปชมภาพยนตร์ในงาน กรุงเทพฯ กลางแปลงเมื่อวานนี้ตนไปที่ลานคนเมือง แต่ไปแล้วไม่ได้ดูหรอก เนื่องจากคนมาขอถ่ายรูปด้วยเยอะ แต่สุดท้ายแล้วตนมองว่าเป็นมิติเศรษฐกิจ เพราะแม่ค้าจำนวนมากมากอดและขอบคุณที่ให้โอกาสพวกเขาได้ขายของ โดยมีแม่ค้าคนนึงเล่าว่าขายมาสี่ปี ไม่เคยขายดีเท่านี้เลย โดย กทม.ไม่ได้คิดเงิน เพราะเป็นพื้นที่สาธารณะ ตนมองว่านี่แหละคือการกระตุ้นเศรษฐกิจตามเขตต่างๆ มีถนนคนเดิน มีที่ทางให้พ่อค้าแม่ค้าได้ขายของ สำหรับหนังกลางแปลง ตนไม่ได้มองแค่ในมิติของหนังอย่างเดียว แต่มองถึงมิติเศรษฐกิจด้วย โดยตนมองว่าการที่คนมาซื้อจับจ่ายถือเป็นการกระจายรายได้ลงพื้นที่ หนังกลางแปลงถือเป็นมิติที่ลึกไปกว่าศิลปะ เพราะมันลงไปถึงระดับเศรษฐกิจของรากหญ้า โดยคนเดินทางมาจับจ่ายใช้สอย มันเป็นมิติที่เมืองเราขาดตรงนี้ไป เพราะที่ผ่านมาเราอาจจะเข้าห้างฯกันหมด มันอาจกลายเป็นรายใหญ่ที่ได้ แต่พอเรากระจายลงเส้นเลือดฝอย จากที่ดูหนังในห้างฯก็มาดูหนังกลางแปลง คนที่ได้คือพ่อค้าแม่ค้า ส่วนที่คนไร้บ้านมาร่วมรับชมหนังกลางแปลงด้วยถือเป็นเรื่องที่ดี เป็นสิทธิที่เท่าเทียมกัน พวกเขาจะได้มีความสดชื่นและมีความหวังในชีวิตต่อไป

ทั้งนี้ นายชัชชาติ อธิบายถึงดราม่ากิจกรรมผู้ว่าฯ สัญจร นั้นเป็นการรบกวนข้าราชการหรือไม่ เหมือนไปรบกวนเวลาทำงานหรือเวลาที่เขาจะอยู่กับครอบครัว โดยนายชัชชาติระบุว่า ยอมรับว่ารบกวน แต่รบกวนปีละหนเท่านั้น เพราะเราไปเขต 1 ปี 1 หน ก็เคยได้เรียนเเจ้งไปแล้วว่าเอาแค่คนจำเป็นมาเท่านั้น คนที่ไม่จำเป็นไม่เป็นไร ขอวันอาทิตย์วันเดียว ปีหนึ่งขอหนเดียวคงไม่ได้หนักหนาอะไร ตนก็มองว่าข้าราชการยินดีที่ได้มาร่วมนะ

ขณะที่นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า ฝากสื่อมวลชนที่มาร่วมปลูกต้นไม้ในวันนี้ ติดตามการเติบโตของต้นไม้ต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งในอนาคต เราจะมีแอพพลิเคชั่นคล้ายๆฟองดูว์ (Traffy Fondue) โดยจะสามารถถ่ายรูป และมี Map (แผนที่) ขึ้นเลย ถ้าใครอยากจองก็ติดต่อทีมมาก่อนได้ ส่วนถ้าใครมีพื้นที่เอกชนที่อยากปลูกต้นไม้ เรายินดีที่จะมาช่วยดูแล ตรงนี้เป็นนโยบายที่ผู้ว่าฯ ชัชชาติ อยากให้เกิดเป็นสวนเล็กๆ สวน 15 นาทีที่เข้าถึงทุกชุมชน ซึ่งเราจะต้องเข้าไปดูว่าทำอย่างไรได้บ้าง