ที่อาคารสามย่านมิตรทาวน์ เขตปทุมวัน เมื่อวันที่8 ก.ค. เวลา 09.00 น. นายศานนท์ หวังสร้างบุญ รองผู้ว่า ฯกทม. เป็นวิทยากรงานเสวนา “เปิดประตูสู่ความเหลื่อมล้ำ” เวทีที่ 1 คนจนเมือง ซึ่งไทยพีบีเอส (Thai PBS) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) จัดงานขึ้นตั้งแต่เวลา 09.00-18.20 น.
นายศานนท์ กล่าวว่า คนจนไม่ใช่อุปสรรคหรือปัญหาของเมือง แต่เป็นฟังก์ชันหนึ่งที่สำคัญของเมือง ซึ่งมันคือหัวใจสำคัญที่ขับเคลื่อนเมืองที่เราต้องเริ่มที่บรรทัดฐานนี้ก่อน การลดต้นทุนให้กับคนจนรวมถึงคนทั้งเมืองเป็นนโยบายหนึ่งของ กทม. ที่จะลดต้นทุนโดยแบ่งเป็นหลายส่วน อาทิ กทม. มีโรงรับจำนำในสังกัดการดูแลที่มีดอกเบี้ยค่อนข้างต่ำมากก็เป็นช่องทางหนึ่งที่เราจะสามารถช่วยคนเมืองได้ เรื่องการจัดพื้นที่สร้างสรรค์ พื้นที่ทำกินต่างๆ ซึ่งเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่าพื้นที่สาธารณะต่างๆ จะเป็นพื้นที่สำหรับการทำมาหากินของคนเมืองได้และเกี่ยวข้องกับเรื่องของนโยบายประเทศแข็งแรง แต่ยังติดปัญหากับเงื่อนไขของด้านการจัดระเบียบฯ การจำกัดสิทธิต่างๆ เชื่อว่าทุกอย่างกำลังจะดีขึ้น เพราะ กทม. จะส่งเสริมเรื่องของการหาสถานที่สำหรับทำกินให้มากขึ้น ทำให้เศรษฐกิจต่างๆ ดีขึ้น
นอกจากนี้ หลังจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 มีเรื่องการท่องเที่ยวเพิ่มเติมเข้ามา กทม. จะทำการส่งเสริมการท่องเที่ยว เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับคนในเมือง ที่จะทำให้เศรษฐกิจกลับมาดีขึ้น หากดำเนินการไปพร้อมกับการลดต้นทุนให้กับคนเมืองก็จะเป็นสิ่งที่ดีมากโดยให้ทุกคนได้ประโยชน์ร่วมกันอย่างทั่วถึง
นายศานนท์ กล่าวอีกว่า ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พูดเสมอว่า อยากสร้างเมืองที่น่าอยู่เป็นกรุงเทพฯ ที่น่าอยู่สำหรับทุกคน คำว่าทุกคนส่วนใหญ่จะลืมคนจนเมือง เราต้องให้ความสำคัญส่งเสริมองค์ประกอบหลายอย่างด้วยกัน ประกอบด้วย บ้าน งานหรือที่ทำกิน โรงเรียน และการเดินทาง กทม.ต้องหาวิธีว่าทำอย่างไรที่จะทำให้เมืองมีต้นทุนต่างๆให้ถูกลงและสร้างโอกาสให้คนได้มากขึ้น เช่น ความสัมพันธ์ระหว่างบ้านกับงานจะเห็นได้ว่า คนจนเมืองจะประกอบอาชีพใกล้บ้านที่พักอาศัย เขาจะเลือกงานที่อยู่ใกล้บ้าน นั่นเป็นโจทย์ว่า กทม. จะทำให้งานอยู่ใกล้ๆและการเดินทางถูก เป็นการลดต้นทุนรายจ่าย หรือหากว่างานอยู่ไกลบ้านแต่เราทำให้การเดินทางฟรีและสะดวกก็เป็นอีกมิติหนึ่งเช่นกัน หรือว่าบ้าน งาน โรงเรียน การเดินทางต้องทำให้ต้นทุนถูกมากขึ้นเป็นต้น ในส่วนนี้เป็นหน้าที่ของรัฐบาลและกทม.ที่ต้องหาวิธีดำเนินการ เช่น ลดต้นทุนการเดินทาง แต่ก่อนคนมองการเดินทางในเมืองด้วยรถไฟฟ้า BTS ซึ่งคนจนเมืองเข้าถึงยากด้วยราคา ถึงจะมีกี่สีกี่สายเขาก็ไม่ได้ขึ้นเพราะต้นทุนเรื่องราคา กทม. กำลังดำเนินการแก้ไข รวมถึงรถประจำทางหรือว่ารถเมล์ ที่ กทม. กำลังหาวิธีแก้ไขปัญหาต่างๆ เช่น เรื่องผู้ประกอบการที่เลิกกิจการ ปัญหาเรื่องของรอบและจำนวนรถประจำทาง เป็นต้น
นอกจากนี้ กทม. ยังดำเนินการเรื่องเรือสัญจรในคลองของกรุงเทพฯอีกด้วย แต่ปัญหาอุปสรรคคือ กทม. ไม่สามารถดำเนินการเองได้ทุกอย่าง แต่จะต้องทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานอย่างเข้มข้นกับองค์กร หน่วยงานต่าง ๆ เพื่อแก้ปัญหาและลดต้นทุนในการดำรงชีวิตให้คนจนเมือง คนกลุ่มเปราะบาง คนไร้บ้าน คนด้อยโอกาส และคนทุกกลุ่มอย่างเท่าเทียมอีกด้วย