หลังจาก“น้องแต้ว” สุดาพร สีสอนดี นักชกสาวอุดรธานี วัย30 อดีตแชมป์ซีเกมส์,เหรียญเงินเอเชี่ยนเกมส์ และเหรียญเงินมวยสากลสมัครเล่นหญิงชิงแชมป์โลกมวยสากลสมัครเล่น ขึ้นชกรอบก่อนรองชนะเลิศ หรือรอบ 8 คนสุดท้าย ในรุ่นไลต์เวตหญิง (60 กก.)  ที่สนามโกคุกิคัง อารีน่า  เฉือนเอาชนะคะแนน  แคโรไลน์ ดูบัวส์ นักชกสาวสหราชอาณาจักร(อังกฤษ) ดีกรีแชมป์กีฬาเยาวนโอลิมปิก “ยูธโอลิมปิก 2018” วัย 20 ปี 3-2 เสียง 28-29,29-28,29-28,28-29 และ 29-28 คะแนน  มีเหรียญทองแดงตุนไว้แล้ว พร้อมสร้างประวัติศาสตร์ เป็นนักมวยหญิงของไทยคนแรก ที่คว้าเหรียญรางวัลในกีฬาโอลิมปิกได้สำเร็จ เข้ารอบรองฯ ในวันที่ 5 ส.ค.นี้ เจอกับนักชกมืออันดับ 1​ของรุ่นนี้  และเป็นเต็ว 1 ของรายการ แอนน์ เคลลี แฮร์ริงตัน นักชกสาวไอร์แลนด์ ที่เคยเอาชนะคะแนน สุดาพร มา ในรอบชิงชนะเลิศมวยสากลสมัครเล่นหญิงชิงแชมป์โลกปี ค.ศ.2018  โดยรอบ 8 คนโอลิมปิกหนนี้ แฮร์ริงตัน เอาชนะคะแนน อิมาเน เคลิฟ จากอัลจีเรีย มาขาดลอย

 “น้องแต้ว” สุดาพร เปิดเผยน้ำตาคลอว่า ก่อนการชกกับ ดูบัวส์ ชทำการบ้านหนักมาก นั่งดูเทปร่วมกับโค้ช เพื่อแก้ทางมวน อย่างละเอียดกว่า 3-4 รอบ เพราะเขาสดกว่า และยาวกว่า และให้ “ครีม” ใบสน มณีก้อน นักชกรุ่นน้องที่เป็นมวยซ้าย และรูปร่างสูงใหญ่มาช่วยลงนวม จำลองการชกจริงด้วย  รู้สึกดีใจมาก ที่นำเหรียญกลับไปฝากคนไทยได้แล้ว ส่วนจะถึงเหรียญทองหรือไม่ ก็จะพยายามเต็มที่ ขอทำเหน้าที่ให้ดีที่สุดทุกไฟต์ ไฟต์ต่อไปจะเจอกับไอร์แลนด์ ที่เคยแพ้มาในรอบชิง มวยหญิงชิงแชมป์โลกปี 2018 เขาเป็นมวยจังหวะ มวยฝีมือ ก็ต้องไปแก้ทางมวยกันต่อไป

นอกจากนั้น ในตอนท้าย “น้องแต้ว” ถึงกับร้องให้น้ำตาคลอ บอกสว่าทันทีที่กรรมการผายมือมาที่ตนเอง ตัดสินว่าชนะแล้ส ก็รู้สึกดีใจที่สุดในชีวิต พูจนดอะไรไม่ออกเลย ตอนนั้นคิดถึงครอบครัว คิดถึงคุณแม่ที่ถูกกักตัว 14 วัน ที่อุดรฯ เพราะไปทำธุระที่โคราช แล้วกลับมาบ้าน ที่คอยโทรส่งกำลังใจให้  โดยเฉพาะคิดถึงพ่อ ที่เสียชีวิตไปแล้สว 7 ปี  เสียดายที่พ่อ(ยอดนคร)  ไม่ได้เห็นวันนี้ ที่เราประสบความสำเร็จในโอลิมปิก เพราะพ่อเป็นคนบังคับให้ชกมวย ทำให้เราเข้ามาชกมวย จนมีวันนี้ เชื่อว่าพ่อคงดูอยู่บนสวรรค์  อยากบอกพ่อว่า ถ้าพ่อรับรู้ได้ ขอให้พ่อภูมิใจในตัวหนู หนูทำได้แล้ว

ด้าน “โค้ชแซม” กามนิตย์ นารีรักษ์ เฮดโค้ชทีมนักชกขชุดโตเกียวเกมส์ เปิดเผยว่า ดีใจและโล่งใจ ที่ทีมมวยทำสำเร็จ สต๊าฟฟ์โค้ชทั้ง 3 คนคือตน,ชัยชุมพล ชำนาญมาก และ เพิก พึ่งปัญญา พยายามแก้ทางมวยให้นักชกอย่างดีที่สุด นักมวยเข้ารอบ 8 คน ได้ 3 คน คือ “สด”ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี, “เฟี้ยว”จุฑามาศ จิตรพงศ์ และ สุดาพร แต่ตกรอบ 8 คน ไปก่อน 2 คน โดยเฉพาะ สด ที่ชกดีแต่แพ้คิวบาน่าเสียดายมาก เหลือ สุดาพร คนเดียว นักกีฬาไทยประเภทอื่น ๆ ก็กลับบ้านกันเกือบหมดแล้ว เห็นใจ ผจก.ทีมมวย “บิ๊กชาย” นายสมชาย พูลสวัสดิ์ ที่ทุ่มเทมาก  ทำให้กดดันและไม่สบายใจมาก นักกีฬาไทยก็กลับบ้านกันเกือบหมดแล้ว วันนี้ “น้องแต้ว” ทำได้ก็ดีใจ รอบต่อไปพยามแก้ทางมวย เตรียมแผนรับมือให้ “น้องแต้ว” อย่างดีที่สุด

“บิ๊กชาย”มั่นใจเจอแชมป์โลกก็มีลุ้น

ด้านผู้จัดการทีมนักชกไทยชุดโตเกียวเกมส์  “บิ๊กชาย” นายสมชาย พูลสวัสดิ์ เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจมาก วันนี้ “น้องแต้ว” ชกได้ดี ชกได้ตามแผน ไม่ตื่นเต้น คุมสมาธิได้ ในรอบต่อไป ถึงจะเป็นรอง เพราะเขาเป็นเต็ง 1 เป็นแชมป์โลก และเราเคยแพ้มา แต่ต่างคน ต่างรู้ฟอร์มกัน ตนยังคิดว่า “น้องแต้ว” ชกง่ายกว่าที่เจอนักชกสหราชอาณาจักร เพราะรูปร่างใกล้เคียงกัน ไม่เสียเปรียบมาก ประสบการณ์ ชั่วโมงบิน ก็สูงพอกัน มั่นใจว่า “น้องแต้ว” มีลุ้นพลิกชนะเข้าชิงทองได้

รับเงินอัดฉีดเพียบ

การเข้าถึงรอบรอง การันตีคว้าเหรียญทองแดง เป็นอย่างน้อย ของ สุดาพร ทำให้ เธอจะทำให้รับเงินรางวัลตามเกณฑ์กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ มอบให้เหรียญทองแดงโอลิมปิก ได้รับเงินรางวัล 4,800,000 บาท ตามหลักเกณฑ์จ่าย 50 เปอร์เซ็นต์​ และแบ่งจ่ายรายเดือนเป็นเวลา 4 ปี รวมทั้งยังได้รับเงินอัดฉีดพิเศษจาก บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่นจำกัด (มหาชน) มอบเงินรางวัลอัดฉีดพิเศษ 2 ล้านบาท นอกจากนี้ คณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ กำหนดให้เงินรางวัลนักกีฬาที่ได้รับเหรียญโอลิมปิกเกมส์ เป็นรายเดือน รวมเวลา 20 ปี เหรียญทอง เดือนละ 12,000 บาท เหรียญเงิน 10,000 บาท และเหรียญทองแดง 8,000 บาท โดยสุดาพรจะได้รับเงินเดือน 8,000 บาท รวมเป็นระยะเวลา 20 ปี เป็นเงิน 1,920,000 รวมทั้งสิ้นน้องแต้วรับเงินรางวัลอัดฉีดเบื้องต้นแล้ว 8,720,000 บาท หากได้เพียงเหรียญทองแดง

เชื่อชัยชนะช่วยพลิกชีวิต

นอกจากนี้ การมีเหรียญรางวัลจากกีฬาโอลิมปิก จะเป็นโอกาสให้ สุดาพร หรืออาสาสมัครทหารพราน สุดาพร สีสอนดี ของกองทัพเรือ ที่กำลังถูกเสนอชื่อบรรจุเข้าหน่วยสวัสดิการกองทัพเรือ มีโอกาสขยับยศเป็นสัญญาบัตร หรือ เรือตรี จากหลักเกณฑ์การทำชื่อเสียงให้ประเทศชาติ ในโอลิมปิกเกมส์ ที่สุดาพร แอบหวังใว้ก่อนมาชกโอลิมปิก ซึ่ง สุดาพร ยังให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างชาติที่มารุมสัมภาษณ์ ในคำถามว่า ชัยชนะนี้มีความหมายแค่ไหนว่า ซึ่ง สุดาพร ตอบผ่านล่ามว่า  “สำหรับตน นี่คือไฟต์ที่เราตั้งใจสุดชีวิต เพราะมันคือการเดิมพันทุกอย่างในชีวิต และชัยชนะจะเปลี่ยนชีวิตพลิกชีวิตของเราได้”

ผบ.ทร.ยันปูมบำเหน็จรางวัลให้

ขณะเดียวกัน ในวันที่3 ส.ค. เวลา 12.00 น. ว่าที่ เรือโทหญิง พุทธรักษา โรคารักษ์ ผู้ช่วยโฆษกกองทัพเรือ แจ้งว่า จากการ อาสาสมัครทหารพรานหญิง สุดาพร สีสอนดี นักกีฬามวยสากลหญิง รุ่น 60 กก. สังกัดกองทัพเรือ  ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก  ที่ประเทศญี่ปุ่น  ผ่านเข้าสู่รอบ 8 คน สุดท้าย และสามารถเอาชนะ แคโรไลน์ ดูบัวส์ จากสหราชอาณาจักร ได้ ส่งผลให้ สุดาพร  การันตีเหรียญทองแดงเป็นอย่างน้อย  ซึ่งนัดต่อไปจะเป็นการชกรอบรองฯในวันที่ 5 ส.ค.นี้ พบกับ นักชกจากประเทศไอร์แลนด์

โอกาสนี้ พลเรือเอก ชาติชาย  ศรีวรขาน  ผู้บัญชาการทหารเรือได้โทรศัพท์แสดงความยินดีกับ อาสาสมัครทหารพรานหญิง สุดาพร  สีสอนดี หรือ น้องแต้ว   ที่มุ่งมั่นตั้งใจในการเก็บตัวฝึกซ้อมอย่างมีวินัย ทุ่มเท และฝึกฝนแม้จะอยู่ห้วงเวลาที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19  จนผ่านเข้าสู้รอบ 4 คนสุดท้าย  โดยอวยพรให้ประสบความสำเร็จ พร้อมทั้งเน้นย้ำ ในการทำหน้าที่ ซึ่งนอกเหนือจากการเป็นตัวแทนของประเทศ ยังเป็นเสมือนทูตวัฒนธรรม ในส่วนของการแข่งขันกีฬา แม้ชนะจะเป็นสิ่งที่ ทุกคนปรารถนา แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของความมีน้ำใจเป็นนักกีฬา รู้จักแพ้รู้จักชนะ ไม่ว่าผลการแข่งขันจะออกมาเป็นอย่างไร เราควรยินดีกับผู้ชนะขณะเดียวกัน ต้องให้กำลังใจแก่ผู้แพ้และพึงระลึกเสมอว่า เราไปแข่งกีฬาเพื่อสร้างความสัมพันธ์และมิตรภาพที่ดีต่อกัน   ทั้งนี้ มีรายงานว่า ผู้บัญชาการทหารเรือเตรียมปูนบำเหน็จรางวัลให้เต็มที่ภายหลังจากอาสาสมัครทหารพรานหญิงสุดาพรเดินทางกลับ

เผยประวัติผลงานเพียบ

 สำหรับ อาสาสมัครทหารพรานหญิง  สุดาพร  สีสอนดี  เกิดเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2534 ที่ อำเภอไชยวาน จังหวัดอุดรธานี    สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรี  จากคณะศึกษาศาสตร์จากสถาบันการพลศึกษาวิทยาเขตสุโขทัย   ปัจจุบันกำลังศึกษาระดับ ปริญญาโทมคณะศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต เอก สังคม ศาสนา และวัฒนธรรม  วิทยาลัยทองสุข  ได้รับการบรรจุเป็น อาสาสมัครทหารพรานหญิง  ที่ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธินในปี 2556  ปัจจุบันสังกัด กองร้อย ทหารพรานนาวิกโยธินที่ 524 ชุดควบคุมทหารพรานนาวิกโยธินที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานนาวิกโยธิน  

อาสาสมัครทหารพรานหญิง สุดาพร ได้เข้าร่วมทีมมวย กองทัพเรือโดยเข้าร่วมการแข่งขันในระดับชาติโดยเป็นนักกีฬาของกองทัพเรือในทีมสโมสรราชนาวีทำการแข่งขันรายการมวยสากลชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ.2556 ได้รางวัลชนะเลิศเหรียญทองในระดับประเทศไทย ในรุ่นที่ขึ้นชก ทำให้ทีมมวยของกองทัพเรือ สโมสรราชนาวีสามารถครองถ้วยคะแนนรวมทีมหญิง และทีมสโมสรราชนาวีสามารถครองถ้วยคะแนนรวมถึง 8 สมัยติดต่อกันจนถึงปัจจุบัน

ส่วนผลงานในระดับนานาชาติที่สำคัญ ได้แก่ เหรียญทองกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 26,ซีเกมส์ ครั้งที่ 27,ซีเกมส์ครั้งที่ 30,เหรียญเงินกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 18 พ.ศ.2561ที่อินโดนีเซีย,เหรียญเงินมวยสากบสมัครเล่นหญิงชิงแชมป์โลกปี ค.ศ.2018 ที่อินเดีย