ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่สำนักปฏิบัติธรรมป่าโมกข์ธรรมาราม ต.หนองสังข์ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ประธานเปิดกิจกรรมพลัง “บวร” ถอนกล้าดำนาบุญ โครงการสังฆะประชาปันสุข และเปิดป้ายศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงซึ่งเป็นการพัฒนาศูนย์เรียนรู้ทฤษฎีใหม่รูปแบบ “โคก หนอง นา” กิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลเนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว วันที่ 28 กรกฎาคม 2565 โดยมีนายปริญญา โพธิสัตย์ ผวจ.สระแก้ว นายธีระชัย ลิ้มประสิทธิศักดิ์ รอง ผวจ.สระแก้ว นายอำเภอทุกอำเภอ คณาจารย์ วิทยาลัยชุมชสระแก้ว นักศึกษา นักเรียน และประชาชนชาวสระแก้ว เข้าร่วม

จากนั้นคณะได้ร่วมเดินชมนิทรรศการโครงการสังฆะประชาปันสุข และเปิดป้ายศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงซึ่งเป็นการพัฒนาศูนย์เรียนรู้ทฤษฎีใหม่รูปแบบ “โคก หนอง นา” ปลูกต้นราชพฤกษ์ และต้นรวงผึ้ง ปล่อยปลา เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร บริเวณศูนย์เรียนรู้ทฤษฎีใหม่รูปแบบ “โคก หนอง นา” บ้านหนองสังข์ นำหัวหน้าส่วนราชการถอนกล้า ดำนา คราดนาแบบโบราณ ด้วยกระบือและดำนาบุญ

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า เป็นความเมตตาจากคณะสงฆ์อำเภออรัญประเทศ และความปรารถนาดีของวิทยาลัยชุมชนสระแก้ว ที่ทำให้ได้มีโอกาสมาร่วมงานอันสำคัญ ในสถานที่ที่ตนได้เคยมาสัมผัสถึงความประทับใจในความรักความสามัคคี ของคณะสงฆ์และพี่น้องภาคีเครือข่ายของกระทรวงมหาดไทยทุกภาคส่วน ทั้งราชการ ท่านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ภาคธุรกิจ พี่น้องประชาชน ลูกหลานเด็ก และเยาวชน ซึ่งต้องกล่าวว่า “ที่นี่มีพลังของหลัก “บวร” อันได้แก่ บ้าน วัด และราชการ ที่เข้มแข็งมาก

ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่อว่า กระทรวงมหาดไทยให้ความสำคัญของการทำงานร่วมกันระหว่างบ้าน วัด และราชการ การขับเคลื่อนโครงการสังฆะประชาปันสุขของคณะสงฆ์อำเภออรัญประเทศ และศูนย์การเรียนรู้ทฤษฎีใหม่รูปแบบ “โคก หนอง นา” บ้านหนองสังข์ เป็นเครื่องยืนยันว่า เป็นความประทับใจของผมและคนไทยทุกคนที่จะได้มีโอกาสเดินทางมาศึกษาเรียนรู้ มาเที่ยวชม มาเยี่ยมเยียนเพราะแม้ว่าหนทางจะไกล และต้องมาเลอะเทอะเปรอะเปื้อนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ แต่เป็นความเปรอะเปื้อนที่มีพลังที่สมบูรณ์ กล่าวคือ แม้ว่าจะเลอะเทอะ แต่จิตใจจะมีแต่ความแจ่มใสเบิกบาน เต็มไปด้วยความปีติยินดี เพราะต้นข้าวที่เราปลูกทุกต้น จะออกรวง และรวงข้าวก็จะถูกเก็บเกี่ยว กลายเป็นเม็ดข้าวปันสุขไปพี่น้องประชาชนผู้ทุกข์ยาก ผู้ลำบาก ผู้เดือดร้อน ดังเช่นสถานการณ์โรคโควิด-19 ที่ผ่านมา เป็นที่ประจักษ์ชัดว่า ผืนนาและศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้ เป็นต้นแบบที่ได้รับการกล่าวขานว่า ได้ช่วยดูแลช่วยเหลือพี่น้องประชาชนทั้งการเป็นศูนย์พักพิง และการนำเอาปัจจัย 4 ไปมอบให้กับพี่น้องประชาชนผู้ที่ทุกข์ยากเดือดร้อนจากสถานการณ์ดังกล่าว และอำเภออรัญประเทศ จะมีความมั่นคงด้านอาหาร ด้านชีวิตอย่างสมบูรณ์