ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระครูใบฎีกาสุรพล มหาปญฺโญ เจ้าอาวาสวัดหนองวัลย์เปรียง เจ้าคณะตำบลทุ่งคอก อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ในการจัดงานพิธีบรรพชาอุปสมบทหมู่ ประจำปี 2565 เพื่อสืบสานปณิธานเป็นพระราชกุศล ให้กับผู้ยากไร้ทุกคน อย่างไม่เลือกชั้นวรรณะ อยู่ในร่มกาสาวพัสตร์ สวดมนต์ เจริญสมาธิ การประพฤติปฏิบัติตามคำสั่งสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อสามารถนำกลับมาใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข ให้กับนาค 19 นาค ฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย โดยมีพระอธิการอุดม ฑีฆายุโก เจ้าอาวาสวัดทุ่งคอก เป็นพระอุปัชฌาย์ พระมหามงคล ถิรญาโณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดทุ่งคอก เป็นพระกรรมวาจา พระปลัดสมพร กิตฺติโสภโณ เจ้าอาวาสวัดศรีเฉลิมเขต เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ภายในพระอุโบสถวัดหนองวัลย์เปรียง เมื่อวันอาทิตย์ที่ 3 ก.ค.65 ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ การจัดงานพิธีบรรพชาอุปสมบทหมู่ ประจำปี 2565 ได้รับการสนับสนุนการจัดงานดังกล่าวจากชาวบ้าน พุทธศาสนิกชน และคณะศิษยานุศิษย์ผู้ใจบุญได้ร่วมทำบุญบริจาคทรัพย์เป็นเจ้าภาพเครื่องอัฐบริขาร และรับเป็นเจ้าภาพถวายภัตตาหารพระบวชใหม่ อีกทั้งยังได้รับการสนับสนุนจาก นายรัฐพล ชีวโรจน์ณรงค์ น.ส.สุวรรณา ชีวโรจน์ณรงค์ ห.จ.ก. เจริญชัยค้าวัสดุก่อสร้าง รับเจ้าภาพถวายปัจจัยบวชนาคหมู่ และเจ้าภาพโรงทานเลี้ยงอาหาร ก๋วยเตี๋ยว ตามหมายกำหนดการ เวลา 07.30 น. มีพิธีปลงผมนาค เวลา 09.00 น. พิธีอาบน้ำนาค เวลา 10.00 น. การแสดงพระธรรมเทศนา โดย พระอธิการอำนาจ เตชธโร เจ้าอาวาสวัดหัวโพธิ์ หรือหลวงพี่ฟรีแลนซ์ เทศน์แหล่สอนนาค สองธรรมาสน์ จากนั้นเวลา 12.00 น. เปิดโรงทานปันน้ำใจเสบียงบุญให้ชาวบ้านร่วมรับประทานอาหาร ส่วนในเวลา 13.00 น. ขบวนแห่นำนาคแห่รอบอุโบสถวัดหนองวัลย์เปรียง เพื่อเข้าพิธีบรรพชาอุปสมบทเป็นพระภิกษุสงฆ์ให้ได้ศึกษาเล่าเรียนพระธรรมวินัย ตามหลักคำสอนของพุทธศาสนา ต่อไป

ในช่วงก่อนวันเข้าพรรษาของแต่ละปี วัดหนองวัลย์เปรียงได้จัดโครงการบรรพชาอุปสมบท บวชนาคหมู่ขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้กุลบุตร และผู้ชายไทยที่มีอายุครบ 20 ปี ผู้ที่ต้องการบรรพชาอุปสมบท เข้ามาสู่ร่มกาสาวพัสตร์ เพื่อเผยแพร่ศาสนาพุทธ โดยมีเงื่อนไขว่าผู้ที่จะมาบวชต้องไม่เป็นผู้ต้องโทษหนีคดี หรือเป็นผู้ที่ติดยาเสพติด โดยในช่วงแรกๆ มีคำถามว่า วัดหนองวัลย์เปรียงเอาเงินมาไหน คำตอบคือรายได้ส่วนหนึ่ง จากปัจจัยส่วนตัวที่ออกไปบรรยายธรรมเทศนาตามสถานที่ต่างๆ ร่วมกับทางคณะกรรมการวัด พุทธศาสนิกชน และชาวบ้านที่มีความเลื่อมใสศรัทธา จึงได้ร่วมกันเสียสละบริจาคทรัพย์ จนสามารถพูดได้ว่าวัดหนองวัลย์เปรียง แห่งนี้คือ ศูนย์รวมจิตใจ และเป็นที่พึ่งของชุมชนอย่างแท้จริง ให้สมกับต้นแบบคำว่า บวร คือ บ้าน วัด และโรงเรียน ที่เข้าด้วยกันได้อย่างมีความสุข ถือว่าเป็น 3 เสาหลักที่สำคัญที่สามารถค้ำจุนสังคมไทยอย่างมั่นคง