“กัปตัน” อิสรานุอุดม ภูริหิรัญพัชร์ นักแม่นปืนวัย 17 ปี เปิดเผยหลังจบการแข่งขันปืนสั้นยิงเร็ว 25 เมตร โอลิมปิกเกมส์ 2020 ในอันดับ 20 พอใจผลงานในกีฬาโอลิมปิกของตน คะแนนยิงเกาะที่ 570 แต้มตามเกณฑ์ของตัวเอง เพียงแต่วันที่สองยิงไม่ดีเท่าวันแรก เนื่องจากเปลี่ยนช่องยิง ทำให้ไม่คุ้นกันพื้นสนาม เพราะเป็นพื้นลาดยางสูงต่ำต่างกัน อาจจะยืนลำบาก
กัปตัน กล่าวอีกว่า ต้องเผชิญกับอุปสรรคมากมาย เคยมีการพยายามจะขอเปลี่ยนตัวนักกีฬาของตนด้วย ประเทศอื่นอาจจะทำได้เพราะใช้งบประมาณของสมาคม แต่ตนไม่ยอม เพราะทุนในการแข่งขันเป็นของตนเองแต่ถ้าหากต้องแข่งขันประลองเพื่อแย่งโควตาก็มั่นใจว่าชนะได้อยู่ดี รู้สึกเป็นห่วงคุณแม่ ( พรพักตร์ ภูริหิรัญพัชร์) ที่ต้องเป็นคนเผชิญหน้ากับปัญหา ส่วนตัวตนมีหน้าที่เดียวคือการฝึกซ้อมและจะมุ่งมั่นต่อไปเพื่อลงแข่งขันต่อไปในอนาคต
ด้าน พรพักตร์ คุณแม่และผู้ฝึกสอนเผยว่า ตั้งแต่ได้โควตามาไม่เคยได้รับการสนับสนุนอะไรเลยและต้องจ่ายเป็นล้านเพื่อกระสุนซ้อมแถมจะโดนเปลี่ยนตัวอีกซึ่งครอบครัวก็สู้เต็มที่เพื่อให้ลูกชายเดินตามความฝันในการแข่งขันโอลิมปิกให้ได้ ที่ผ่านมาต้องจ่ายค่ากระสุนฝึกซ้อมนัดละ 10 บาท วันล 3,000 บาทสัปดาห์ละ 6 วันบางสัปดาห์ 7 วันคูณไปได้เลย(1.7ล้านบาทโดยประมาณ) เพราะตลอดเวลาเราไม่เคยได้เลย สอบถามไปที่ การกีฬาแห่งประเทศไทย ก็ยืนยันว่าส่งกระสุนให้สมาคมฯแล้ว ไปเรียกร้องกับสมาคมฯ เขาไม่ให้ นักกีฬาคนอื่นก็ไม่ได้ เพิ่งมาได้เอาวันที่ 15 ก.ค. ที่ผ่านมา แต่เราก็ไม่ได้อยู่ดีเพราะฝึกซ้อมอยู่ที่ โคราช ก่อนหน้านี้ได้ขอแล้วขออีก ขอจนคิดว่านี่โอลิมปิกขอทาน หรือเปล่า พูดตรงๆ เมื่อไม่ได้ก็ต้องดิ้นรนเอง วันนี้ยังสู้เต็มที่ ต้องขายบ้าน ขายรถ ออกไปเพื่อเป็นทุนให้ลูกได้มีกระสุนฝึกซ้อม”
“น้องโดนทุกอย่าง มีการพยายามเปลี่ยนตัว ซึ่งถ้าเป็นคนอื่นอาจจะยอม แต่เราไม่ยอม เราต้องฝึกซ้อมเอง แม่ต้องทำเรื่องของเป็นโค้ชเอง เพื่อจะได้เดินทางมาดูแล ก่อนเดินทางมาผู้ใหญ่ในสมาคมก็จะเดินทางมาเอง ซึ่งเราก็ต้องไปร้องเรียน กกท. โอลิมปิก เพื่อให้ได้สิทธิ์ตรงนี้ แม่ไม่ได้แค่มาดูลูกชาย แต่ที่ผ่านมา แม่ต้องไปดีลกับโค้ชต่างชาติมาสอนให้ ลูกชาย ชั่วโมงละเป็นหมื่นๆ สอนออนไลน์กันหลายเดือน เพราะเราเองก็ไม่เคยได้การสนับสนุนตรงนี้เลย เราไม่ใช่ผู้บริหาร แต่เราก็พยายามเต็มที่ และเมื่อไม่ได้ดูแลกันก็ไม่เป็นไร เราจะสู้ของเราเอง ขอแค่ไม่ปิดโอกาสนักกีฬากันก็เพียงพอ”