เมื่อวันที่ 2 ส.ค. ที่ห้องประชุมเมืองราด อาคาร 2 ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์ นายกฤษณ์ คงเมือง ผวจ.เพชรบูรณ์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อ จ.เพชรบูรณ์ ครั้งที่ 60 ประจำปี 2564 ภายหลังจังหวัดฯ ถูกประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด หรือพื้นที่สีแดงเข้ม โดยมีส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ขณะที่นายอำเภอและคณะกรรมการโรคติดต่อระดับอำเภอต่างๆ ของ จ.เพชรบูรณ์ ร่วมประชุมออนไลน์ผ่านระบบซูม เพื่อกำหนดมาตรการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่จ.เพชรบูรณ์ และให้ประชาชนปฏิบัติตามมาตรการที่ประกาศ

โควิดเพชรบูรณ์โผล่อีก ‘คลัสเตอร์รง.น้ำตาล’ ติดแล้ว68ราย สั่งปิด7วันตรวจเชื้อซ้ำอีกรอบ

สำหรับประกาศของคณะกรรมการโรคติดต่อจ.เพชรบูรณ์ มีการประกาศขอความร่วมมือเป็นข้อหลักๆ อาทิ การจำกัดการเคลื่อนย้ายการเดินทางในช่วงนี้ และให้มีการตั้งด่านตรวจทั้งในระดับหมู่บ้าน และพื้นที่ติดต่อระหว่างจังหวัดอย่างเข้มงวด ห้ามประชาชนออกนอกเคหะสถานตั้งแต่เวลา 21.00 น.-04.00 น. เว้นแต่พนักงานเจ้าหน้าที่และผู้ที่ได้รับการยกเว้น เช่น ผู้ปฏิบัติงานการสาธารณสุข กลุ่มผู้ป่วย การขนส่งสินค้าหรือการขนย้ายประชาชน เป็นต้น ส่วนสถานที่เสี่ยงยังคงมีคำสั่งปิดเหมือนเดิม และมีการสั่งปิดสถานที่เสี่ยงเพิ่ม เช่น นวดแผนไทย นวดเท้า สถานบริการเสริมความงาม ฟิตเนส สถานที่ออกกำลังกายกลางแจ้ง ขณะที่สนามกีฬาสามารถเปิดได้แต่ไม่เกิน 20.00 น. ร้านตัดผม เสริมสวย เปิดได้เฉพาะกิจกรรม สระ ตัดซอย แต่ห้ามลูกค้ามานั่งรอในร้าน ร้านจำหน่ายอาหาร-เครื่องดื่ม เปิดได้ไม่เกิน 20.00 น. ห้ามนั่งรับทานในร้าน ให้ซื้อกลับบ้าน ร้านสะดวกซื้อ ตลาดสด ตลาดนัดเปิดได้ไม่เกิน 20.00 น. ห้างสรรพสินค้าเปิดได้ไม่เกิน 20.00 น. เปิดได้เฉพาะซุปเปอร์มาเก็ต เว้นแต่ ธนาคาร ไปรษณีย์ การสื่อสาร ร้านจำหน่ายเครื่องมือช่างสามารถเปิดดำเนินการได้ นอกจากนี้ โรงแรมสามารถเปิดดำเนินการได้ แต่งดการจัดกิจกรรม ประชุมสัมมนา จัดเลี้ยง ห้ามจัดกิจกรรมรวมกลุ่มไม่เกิน 5 คน หากเกินกว่านี้ต้องขออนุญาต ทั้งนี้จะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 3-31 ส.ค. 2564

นายกฤษณ์ กล่าวว่า เรามีมาตรการตาม ศบค.ส่วนกลางสั่งการมา ซึ่งขณะนี้มีการประชุมเรียบร้อยแล้วคำสั่งจะออกเพื่อเป็นแนวทางให้ประชาชนปฏิบัติ ซึ่งคณะกรรมการควบคุมโรคก็คำนึงถึงการควบคุมโรคให้มากที่สุด แต่กระทบต่อเศรษฐกิจและความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนน้อยที่สุด สิ่งที่คณะกรรมการควบคุมโรคคิดก็คือ เพชรบูรณ์ไม่ได้อยู่ในภาวะร้ายแรงเหมือนที่อื่นแต่ที่ถูกประกาศเป็นพื้นที่สีแดงเข้มเพราะมีคลัสเตอร์ใหญ่เกิดขึ้น และเราสามารถควบคุมโรคได้อยู่ในวงจำกัด จะเห็นได้ว่าคลัสเตอร์โรงงานแปรรูปไก่ก็ดี หรือโรงงานน้ำตาลก็ดี ไม่พบยอดผู้เชื้อเพิ่ม และผู้ติดเชื้อก็เป็นผู้ป่วยที่ไม่แสดงอาการ ขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนก ตนคิดว่าในการบังคับใช้ตามมาตรการของรัฐบาลกับจ.เพชรบูรณ์ คงไม่นาน ถ้าเราร่วมแรงร่วมใจกันดูแลตัวเอง และพื้นที่ไม่ให้มีการแพร่ระบาดของโรคเพิ่ม คิดว่าคงไม่นานก็ผ่อนคลาย

“ในภาพรวมชาวเพชรบูรณ์ อาจจะหวั่นกลัวหรือวิตกต่อการประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด แต่ในวิกฤติครั้งนี้ ส่วนตัวคิดว่าก็เป็นโอกาสที่ดี โดยเฉพาะโอกาสที่เราอาจจะได้รับการพิจารณาการช่วยเหลือหรือเยียวยาพร้อมกับ 29 จังหวัดที่ถูกประกาศพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวัคซีน หรือสิทธิต่างๆ แต่ทั้งนี้ก็เป็นเพียงการคาดเดาของตนเท่านั้น”ผวจ.เพชรบูรณ์ กล่าวทิ้งท้าย