ดร.เสนีย์ สุวรรณดี รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา ม.เกษบัณฑิต เปิดเผยว่า จากการที่มหาวิทยาลัย ได้มีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการกับการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ในมิติต่างๆ โดยเฉพาะด้านการพัฒนาบุคลากร เพื่อยกระดับองค์กรให้มีความพร้อมและทันกับการเปลี่ยนแปลงและการแข่งขันในศตวรรษที่ 21 ประกอบกับ กกท. เป็นองค์กรที่มีบทบาทหน้าที่สำคัญสำหรับการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาการกีฬาของประเทศ

ดังนั้นเพื่อให้การขับเคลื่อนการบริหารจัดการบรรลุตามนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ของ กกท. ทาง ม.เกษมบัณฑิต โดยศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ จึงร่วมกับสำนักกฎหมาย กกท. กำหนดจัดโครงการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตร “พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับบุคลากรทางการกีฬา” ให้กับพนักงาน กกท. ทั้งส่วนกลางและภูมิภาค รวมทั้งสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย และสมาคมกีฬาแห่งจังหวัด ภายใต้มาตรการสาธารณสุขระหว่างวันที่ 27-28 มิ.ย.นี้ ที่ห้องประชุมชั้น 25 อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา การกีฬาแห่งประเทศไทย หัวหมาก กทม.

โดยได้รับเกียรติจากวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิที่เชี่ยวชาญเฉพาะทาง ร่วมรังสรรค์องค์ความรู้และถ่ายทอดแนวทาง วิธีปฏิบัติ สำหรับนำไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานตามบทบาทหน้าที่ ประกอบด้วย ดร.สิทธินัย จันทรานนท์ หัวหน้าฝ่ายสังกัดฝ่ายกำกับการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์องค์กร และเจ้าหน้าคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (DPO) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) และ ดร.อัญธิกา ณ พิบูลย์ รองคณบดีฝ่ายบริหารคณะนิติศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และที่ปรึกษาด้านกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ทางด้าน นายสมพร ไชยสงคราม ผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย กกท. กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ได้มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ที่ผ่านมานั้น เพื่อให้พนักงาน กกท.และบุคลากรทางการกีฬามีความรู้ความเข้าใจในมิติที่เกี่ยวข้องกับพระราชบัญญัติฉบับนี้และเป็นไปตามนโยบายของ กกท. โดยเฉพาะผู้ว่าการ ที่ตระหนักและให้ความสำคัญกับการสร้างองค์ความรู้ตลอดจนแนวทางและวิธีการปฏิบัติของพระราชบัญญัติดังกล่าวได้อย่างถูกต้อง สำนักกฎหมาย จึงร่วมกับศูนย์นวัตกรรมการพัฒนาทุนมนุษย์ ม.เกษมบัณฑิต จัดโครงการอบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตร “พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลสำหรับบุคลากรทางการกีฬา” สำหรับการจัดโครงการดังกล่าว คาดว่าผู้เข้าร่วมการอบรมจะได้นำองค์ความรู้และวิธีปฏิบัติที่ถูกต้องไปประยุกต์ใช้ ซึ่งจะส่งผลให้การดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และประสิทธิผลต่อไป