สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเนปิดอว์ ประเทศเมียนมา เมื่อวันที่ 2 ส.ค.ว่าสถานีโทรทัศน์แห่งชาติของเมียนมารายงานเรื่อวการขยายคำสั่งสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา จะมีผลต่อเนื่องไปจนถึงเดือน ส.ค. 2566 สอดคล้องกับคำกล่าวของ พล.อ.มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ซึ่งตอนนี้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของเมียนมาด้วย ว่ารัฐบาลรักษาการจะใช้ช่วงเวลาดังกล่าว "เตรียมจัดการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ ยุติธรรม โปร่งใส และเป็นการแข่งขันระหว่างหลายพรรค"
แม้ยังไม่มีความชัดเจนว่า ตอนนี้ในเมียนมาเหลือพรรคการเมืองใดบ้าง อย่างไรก็ตาม พล.อ.มิน อ่อง หล่าย กล่าวถึงพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย ( เอ็นแอลดี ) ของนางออง ซาน ซูจี และกลุ่มผู้สนับสนุน "คือกลุ่มหัวรุนแรงที่เลือกแสดงออกด้วยการก่อการร้าย แทนที่จะปฏิบัติตามกฎหมาย หรือร่วมกันแก้ไขสถานการณ์ตามครรลองของกฎหมาย"
ขณะเดียวกัน ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมาประณามการประท้วงซึ่งยังคงเกิดขึ้น "คือเจตนาของฝ่ายต่อต้าน" ในการแพร่โรคโควิด-19 และกล่าวถึงการนำเสนอข่าวสารเกี่ยวกับนโยบายปัจจุบันของภาครัฐ ในการแก้ไขวิกฤติโรคระบาดครั้งนี้ "คือการก่อการร้ายทางชีวภาพ" เต็มไปด้วยข้อมูลที่บิดเบือนและเฟคนิวส์ พล.อ.มิน อ่อง หล่าย ยืนยันว่า นับจากนี้เมียนมาจะได้รับวัคซีนมากขึ้นและมีความต่อเนื่อง ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญในการควบคุมโรค
นอกจากนี้ พล.อ.มิน อ่อง หล่าย กล่าวถึงความพยายามของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ( อาเซียน  ) ในการเป็นผู้นำคลี่คลายสถานการณ์ทางการเมืองในเมียนมา โดยหนึ่งในแนวทางแก้ไข คือการแต่งตั้งผู้แทนพิเศษทางการทูต ว่าเมียนมายินดีร่วมงานกับตัวแทนของอาเซียน ซึ่งตอนนี้มี 3 คนอยู่ในกระบวนการคัดสรรขั้นสุดท้าย ซึ่ง พล.อ.มิน อ่อง หล่าย ไม่ได้พูดถึงบุคคลอีกสองคนอย่างชัดเจน แต่กล่าวว่า เขาสนับสนุนให้นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล อดีตรมช.การต่างประเทศของไทย และอดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำเมียนมา ให้ทำหน้าที่นี้.

เครดิตภาพ : REUTERS