ในยุคที่อะไร ๆ ก็เป็นดิจิทัลไปหมด เป็นยุคแห่งโลกเสมือนจริง แม้แต่งานศิลปะอย่าง NFT แต่ความคลาสสิกในการหยิบจับวัตถุจริง ๆ ในโลกแห่งความเป็นจริง ก็ยังคงมีเสน่ห์ไม่เสื่อมคลาย และในครั้งนี้ทาง “พี่เช Teen Zone” ได้รับคำเชิญจาก “คิดซ์ แอนด์ คิทซ์” ตัวแทนนำเข้าการ์ดเกมของ “บันได” (Bandai) ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ให้ไปร่วมทดลองเล่นการ์ดเกม “One Piece” ซึ่งสร้างมาจากมังงะสุดฮิตที่ทำเป็นอนิเมะฉายจนโด่งดังไปทั่วโลก และตอนนี้ก็กำลังทำเป็นซีรีส์ไลฟ์แอ๊คชั่นคนแสดงทาง Netflix มีกำหนดเข้าฉายในปีหน้า

ถือเป็นเกียรติอย่างสูงที่ได้เป็นคนไทยกลุ่มแรกที่ได้ทดลองเล่นการ์ดเกม One Piece ซึ่งเป็นการ์ดเกมที่ได้ลิขสิทธิ์ถูกต้องจากอาจารย์เออิจิโร่ โอดะ ผู้วาด One Piece สำนักพิมพ์ชูเอฉะ ผู้ตีพิมพ์มังงะเรื่องนี้ และโตเอะ แอนิเมชั่น ผู้ผลิตอนิเมะ One Piece โดยเบื้องต้นการ์ดจะวางจำหน่ายไปยัง 49 ประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น ไทย จีน บราซิล อังกฤษ อเมริกา ฯลฯ

เรานัดหมายกันที่บริษัท คิดซ์ แอนด์ คิทซ์ ก่อนเริ่มทดลองเล่นการ์ดเกม ทาง คุณวีระศักดิ์ กิจเลิศไพโรจน์ กรรมการผู้จัดการ คิดซ์ แอนด์ คิทซ์ ได้กล่าวเปิดงาน จากนั้นทีมงานพร้อมด้วย “HalouiS’s Home” ได้ร่วมกันสอนวิธีการเล่นให้กับผู้ได้รับเชิญทุกคน ได้แก่ สื่อมวลชน, ยูทูบเบอร์ และอินฟลูเอ็นเซอร์ทั้งหลาย

สำหรับชุดการ์ดเกม One Piece ที่ใช้ทดสอบ มี 2 เด็ค คือ เด็คของ “ลูฟี่ : โจรสลัดหมวกฟาง” กับเด็คของ “ไคโด : กลุ่มโจรสลัดร้อยอสูร” (เนื่องจากข้อมูลหลายอย่างยังคงเป็นความลับ การ์ดที่ใช้ทดสอบหลายใบจึงยังไม่สามารถเปิดเผยได้)

โดยทาง “พี่เช” ได้เลือกเล่นเด็คของ “ไคโด” สู้กับเด็คของ “ลูฟี่” ที่ทางน้องรัก “เอเค” จาก Metal Bridges เป็นผู้เล่น วิธีการเล่นก็ไม่ยากเกินความพยายามและทำความเข้าใจของพวกเรา แม้คุณจะไม่เคยอ่านหรือดู One Piece มาก่อนเลย ก็สามารถเล่นได้

หลัก ๆ จะมี “ลีดเดอร์การ์ด” 1 ใบ เป็นใบหลัก ซึ่งการ์ดทดลองของเราในตอนนี้ มีแค่ “ลูฟี่” กับ “ไคโด” เท่านั้น ในอนาคตก็จะมีการ์ดลีดเดอร์ต่าง ๆ ออกมาอีกมากมายแน่นอน

ต่อมาเป็น “เมนเด็ค” การ์ดในกองอีก 50 ใบแบ่งเป็นการ์ดคาแรกเตอร์ สเตจการ์ด อีเวนต์การ์ด และมีการ์ดด้งอีก 10 ใบ เอาไว้ใช้ในการแบทเทิล

เริ่มต้นเรานำกองการ์ดของคู่แข่งมาสับ และส่งการ์ดของเราให้คู่แข่งสับ จากนั้นเราต้องจั่วการ์ด 5 ใบแรกมาถือไว้ในมือเป็นการ์ดเริ่มต้น ถ้าไม่พอใจ สามารถเปลี่ยนได้ 1 ครั้ง แต่ต้องเปลี่ยนทั้ง 5 ใบ จากนั้นนำการ์ด 5 ใบต่อไปที่เรียงอยู่บนสุดมาวางเป็นพลังชีวิต ซึ่งการ์ดพลังชีวิต 5 ใบนี้ ใครหมดก่อน และถูกโจมตีใส่อีกครั้งจนพลังชีวิตการ์ดลีดเดอร์หมด ก็ต้องพ่ายแพ้ไป

ซึ่งในการดวลทดลองกัน แม้จะมีความงงงวยอยู่ แต่ด้วยความที่สตาฟฟ์ของงานมายืนประกบใกล้ชิด คอยอธิบายทุกขั้นตอน ทำให้การเล่นเป็นไปอย่างสนุกสนาน และ “พี่เช” ก็สามารถเก็บชัยชนะมาครองได้ (ขอขิงนิดหนึ่ง) บอกเลยว่าติดใจ จากที่สังเกตอากัปกิริยาของผู้ทดลองโต๊ะอื่น ๆ ทุกคนดูสนุกสนานและตื่นเต้นกันมาก มีหลายโต๊ะที่เล่นซ้ำกันอีกหลายรอบ ทำให้คาดการณ์ได้เลยว่า การ์ดเกม One Piece จะได้รับความนิยมไปทั่วโลกแน่นอน

แต่น่าเสียดายที่การ์ดเกม One Piece เป็นการ์ดภาษาญี่ปุ่น เท่าที่สอบถามกับทาง คิดซ์ แอนด์ คิทซ์ แล้ว น่าจะไม่มีการซื้อลิขสิทธิ์มาทำเป็นภาษาไทย ส่วนภาษาอังกฤษก็ต้องลุ้นกันว่าในอนาคตจะมีหรือไม่

วิธีการเล่นการ์ดเกม One Piece

สำหรับใครที่อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว คงรู้สึกอยากเล่นบ้าง ทุกคนสามารถไปทดลองเล่นกันได้ตามร้านการ์ดเกมต่าง ๆ ในกิจกรรม ONE PIECE CARD GAME Teaching Tour โดยจะเริ่มต้นในวันที่ 18 มิ.ย.นี้ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ https://www.facebook.com/thaicarddassclub ขณะที่กิจกรรมการแข่งตามร้าน Meet-up event จะเริ่มจัดพร้อมการ์ดชุดแรกวางจำหน่ายในวันที่ 8 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไป และมียาวไปจนถึงการแข่งขัน Championship ในช่วงต้นปี 2566

ส่วนใครที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ One Piece แต่ไม่ได้ชอบเล่นการ์ดเกม ก็สามารถซื้อไปสะสมกันได้ เพราะการ์ดที่หายาก ๆ บางใบ ราคาจะพุ่งสูงมาก ในวงการสะสมการ์ดเกม ราคาโหดไม่แพ้วงการพระเครื่องกันเลยทีเดียว

ใครที่อ่านแล้วแต่ก็ยังงงว่าเล่นยังไง สามารถไปดูคลิปสอนเล่นของทาง NEGI กันได้เลย

สำหรับสนนราคาของการ์ดเกม One Piece ชุดสตาร์ทเตอร์เริ่มต้นพร้อมเล่น 4 แบบแรก ราคากล่องละ 350 บาท วางจำหน่าย 8 กรกฎาคม 2565 แต่สำหรับนักสะสมเปิดลุ้นการ์ดหายาก ราคากล่องละ 1800 บาท 1 กล่องมีทั้งหมด 24 ซอง วางจำหน่าย 22 กรกฎาคม 2565 และยังมีชุดสตาร์ทเตอร์ชุดพิเศษ ที่วางขายพร้อมภาพยนตร์ One Piece Film: Red การ์ดภายในกล่องนอกจากจะมีตัวละครจากภาค Red แล้ว ยังมีตัวละครจากมูฟวี่ภาคก่อน ๆ ด้วย ราคากล่องละ 230 บาท วางจำหน่าย 6 สิงหาคม 2565

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://asia-en.onepiece-cardgame.com/