เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. พ.อ.ภูมิพัฒน์ บุญเรืองขาว ผบ.ฉก.ร.25 กองกำลังเทพสตรี ได้รับรายงานจากแหล่งข่าวในพื้นที่ อ.สุขสำราญ จ.ระนอง ว่ามีการขนแรงงานต่างด้าว ชาวเมียนมา ด้วยเรือหัวโทง จากชายฝั่งทะเล เข้ามาในคลองป่าชายเลน บริเวณซอยบ่อกุ้งร้าง ม.1 ต.นาคา อ.สุขสำราญ เพื่อเตรียมเดินทางเข้าพื้นที่จังหวัดชั้นใน จึงรีบสั่งการให้ ผบ.ร้อย ร.2521 ฉก.ร.25 จัดกำลังพร้อมประสาน ชุดสืบสวน สภ.สุขสำราญ เข้าร่วมทำการตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าว

โดยในจุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่นำเรือตรวจการณ์เข้าควบคุมเรือหางยาว 1 ลำ บรรทุกแรงงานต่างด้าว ชาวเมียนมา หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายไว้ได้ 30 คน เป็นชาย 23 คน หญิง 7 คน พร้อมควบคุมผู้นำพาชาวไทย ที่เป็นคนขับเรือ คือนายเสริมศักดิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี ชาว ต.ม่วงกลวง อ.กะเปอร์ จ.ระนอง ขณะกำลังนำเรือเข้าเทียบฝั่ง

จากการสอบสวนนายเสริมศักดิ์ สารภาพว่า ได้ขนแรงงานเป็นครั้งที่ 2 ได้ไปรับแรงงานต่างด้าวทั้งหมด มาจากพื้นที่ซอยท่ายาง ต.ม่วงกลวง อ.กะเปอร์ โดยจะได้รับค่าจ้าง คนละ 500 บาท รวมเป็นเงิน 15,000 บาท โดยมีผู้สั่งการเป็นคนในพื้นที่ อ.สุขสำราญ ที่เป็นคนว่าจ้างในการขนแรงงาน เพื่อหลบหลีกเส้นทางด่านตรวจความมั่นคง อ.สุขสำราญ จากนั้นจะมีรถยนต์มารับแรงงานทั้งหมดเดินทางเข้าพื้นที่จังหวัดชั้นใน

แรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาให้การว่า ทั้งหมดเดินทางจาก จ.เกาะสอง ประเทศเมียนมา ด้วยเรือหางยาว ข้ามทะเล เข้ามายังฝั่งประเทศไทย เพื่อขึ้นฝั่งและเข้าพักในพื้นที่ อ.กะเปอร์ เป็นเวลา 3 คืน และได้ขึ้นเรือหางยาวหัวโทง เพื่อรอขึ้นรถเพื่อจะเดินทางไปทำงานที่ จ.สุราษฎร์ธานี โดยเสียค่าใช้จ่ายให้กับนายหน้าฝั่งเมียนมา เงิน 20,000 บาท แต่ยังไม่ทันได้ทำงานก็มาโดนจับกุมเสียก่อน จากนั้นจึงดำเนินการตามมาตรการสาธารณสุข ป้องกัน covid-19 และควบคุมตัวส่ง สภ.สุขสำราญ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป