ผู้สื่อข่าวรายงาน พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และคณะ ลงพื้นที่ตรวจราชการ ณ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติ พร้อมทั้งมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชน ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2558 อนุมัติหลักการการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาลในลักษณะแปลงรวม โดยมิให้กรรมสิทธิ์ แต่อนุญาตให้เข้าทำประโยขน์ในที่ดินของรัฐเป็นกลุ่มหรือชุมชน ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติกำหนดในรูปแบบสหกรณ์ หรือรูปแบบอื่นที่เหมาะสม ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยมี นายเชษฐา โมสิกรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ประธานอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบาย คทช. พร้อมด้วย ดร.รวีวรรณ ภูริเดช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (ผอ.สคทช.) นายศิริชัย เรืองฤทธ์ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมความร่วมมือและขับเคลื่อนการบริหารจัดการที่ดิน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและเจ้าหน้าที่ สคทช. เข้าร่วมงานดังกล่าวด้วย 

ในการนี้ รองนายกรัฐมนตรี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ให้เกียรติมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 5 พื้นที่ ให้แก่ผู้ว่าราชการจังหวัด ประกอบด้วย “ป่าแม่สุรินทร์” “ป่าแม่เงาและป่าแม่สำเพ็ง” “ป่าสาละวิน” “ป่าแม่ยวมฝั่งซ้าย (อำเภอขุนยวม)” และ “ป่าแม่ยวมฝั่งขวา” เนื้อที่รวม 7,762 ไร่ 52 ตารางวา พร้อมทั้งมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชนตามนโยบายรัฐบาล ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้กับประชาชนในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่เงาและป่าแม่สำเพ็ง จำนวน 902 ราย ในพื้นที่ตำบลขุนยวม ตำบลแม่อูคอ ตำบลแม่เงา และตำบลแม่กิ๊ อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยมีผู้แทนประชาชน จาก 4 ตำบล จำนวน 4 ราย เป็นตัวแทนรับมอบ และเยี่ยมชมนิทรรศการผลการดำเนินงานโครงการเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุนเขื่อนภูมิพล การดำเนินการตามมาตรการป้องกันไฟป่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 

ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ มีข้อสั่งการ ให้ทุกหน่วยงาน ทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พิจารณาดำเนินการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปัญหาเรื่องไฟฟ้า น้ำสำหรับอุปโภคบริโภค เส้นทางการคมนาคม และเร่งดำเนินการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ การเข้าถึงแหล่งทุนของประชาชน รวมถึงการนำแนวทางสหกรณ์มาใช้ในการบริหารจัดการ ในพื้นที่ คทช. ให้เกิดความต่อเนื่องและเกิดผลเป็นรูปธรรม เพื่อให้ประชาชนสามารถต่อยอดความรู้ มีความเข้มแข็ง และสามารถพึ่งพาตนเองได้ พร้อมทั้ง กล่าวขอบคุณทุกหน่วยงานที่มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล ซึ่งหากมีปัญหาอุปสรรคในการดำเนินงาน ให้ประสานคณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัด (คทช.จังหวัด) หรือสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ เพื่อหาแนวทางแก้ไขต่อไป

และในช่วงบ่าย รองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะผู้บริหาร สคทช. ยังได้เดินทางไป จังหวัดเชียงใหม่ โดยมีนายวรญาณ บุญณราช รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวต้อนรับและรับมอบหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในพื้นที่ คทช. จังหวัดเชียงใหม่ โดยมุ่งหวัง ลดความเหลื่อมล้ำของสังคมและการสร้างโอกาสการเข้าถึงบริการภาครัฐ แก้ปัญหาการไร้ที่ดินทำกินของเกษตรกรและการรุกล้ำเขตป่าสงวน โดยการกระจายสิทธิ การถือครองให้แก่ผู้ที่อยู่ในพื้นที่ที่ไม่ได้รุกล้ำ และออกมาตรการป้องกันการเปลี่ยนมือไปอยู่ในครอบครองของผู้ ที่มิใช่เกษตรกร จำนวน 5 พื้นที่ ประกอบด้วย ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ขานและป่าแม่วาง, ป่าสงวนแห่งชาติป่าสันทราย (ต.ป่าไผ่ อ.สันทราย), ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่แจ่ม (ต.กองแขก อ.แม่แจ่ม), ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่แจ่ม (ต.ท่าผา อ.แม่แจ่ม) และป่าสงวนแห่งชาติป่าเชียงดาว (ต.ทุ่งข้าวพวง อ.เชียงดาว) เนื้อที่รวมกว่า 32,099 ไร่.