เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. ลงตรวจพื้นที่ติดตามสถานประกอบการบริเวณสีลม ซอย 2 เขตบางรัก หลังเกิดเหตุไฟไหม้วานนี้ (7 มิ.ย.) โดยนายชัชชาติ กล่าวว่า ได้รับรายงานเบื้องต้นจาก นายธีรยุทธ ภูมิภักดิ์ ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (สปภ.) ว่า ต้นเพลิงน่ามาจากสายไฟ ส่วนสาเหตุอยู่ระหว่างหน่วยพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบ ทั้งนี้รถดับเพลิงที่มาระงับเหตุมาจากสถานีดับเพลิงบางรัก ซึ่งห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ 2 กม. ใช้เวลามาถึงที่เกิดเหตุ 11 นาที เนื่องจากการจราจรติดขัด ตามหลักสากลเวลามาตรฐานรถดับเพลิง หน่วยกู้ชีพ กู้ภัยต้องถึงที่เกิดเหตุภายในเวลา 8 นาที แต่เมื่อรถดับเพลิงมาถึง ยังไม่สามารถฉีดน้ำระงับเพลิงได้ เนื่องจากยังไม่มีการตัดกระแสไฟฟ้า ซึ่งต้นเพลิงอยู่ที่สายไฟ

ระหว่างลงพื้นที่นายชัชชาติ ได้สั่งการ ให้ ผอ.สปภ. ทบทวนหรือพิจารณาว่า ทำไมรถดับเพลิง และรถกู้ภัยถึงมาช้า หรือมาถึงที่เกิดเหตุไม่ได้ภายใน 8 นาที

นายชัชชาติ กล่าวอีกว่า เหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนี้ ถือเป็นโชคดีในความโชคร้าย ที่เหตุการณ์ไฟไหม้เกิดขึ้นตอนยังไม่มีลูกค้า ไม่มีผู้เสียชีวิต ไม่มีความเสียหายรุนแรง และจากการลงพื้นที่ ได้กำชับให้ตรวจสอบดูเรื่องบันไดหนีไฟครบถ้วนตามกฎหมายกำหนดหรือไม่ ช่วงนี้ยังไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามามาก ยังมีเวลาที่จะปรับปรุงแก้ไขเรื่องความปลอดภัย รวมถึงการมาตรการป้องกันโควิด-19 ที่ยังคงมาตรการเดิมอยู่

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของ กทม.จะไปดูเรื่องมาตรการตรวจสอบอาคารต่างๆ ให้ละเอียดและเข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะระบบป้องกันอัคคีภัย ซึ่งสถานประกอบการต่างๆ สำนักงานเขตแต่ละพื้นที่จะต้องตรวจสอบเข้มงวดมากขึ้นเหตุการณ์นี้ ถือเป็นบทเรียนให้ทบทวนเรื่องการป้องกันหรือการเผชิญเหตุอัคคีภัย ทั้งเรื่องบันไดหนีไฟ การซักซ้อมแผนหนีไฟ การติดตั้งอุปกรณ์ถังดับเพลิงในอาคาร รวมถึงอุปกรณ์ในการดับเพลิงและกู้ภัยของเจ้าหน้าที่ การเข้าถึงที่เกิดเหตุ ประสานหน่วยงานไฟฟ้าตัดกระแสไฟฟ้าขณะเกิดเหตุเพลิงไหม้

พร้อมกันนี้ นายชัชชาติ ได้ฝากถึงนักท่องเที่ยวประชาชนทุกคน เวลาไปเที่ยวหรือพักโรงแรมต่างๆ ให้ดูถึงระบบความปลอดภัยและสังเกตทางหนีไฟเพื่อการเอาตัวรอดในยามฉุกเฉิน เพราะหากเกิดเหตุจะวุ่นวายมาก ส่วน กทม. จะตรวจสอบมาตรการตามข้อกฎหมายให้เข้มข้น