นายมนต์สิทธิ์ ไพศาลธนวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ได้เป็นประธานในโครงการผู้ว่าพาไปยาม ประจำปี 2565 ครั้งที่ 8 ที่หน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในจังหวัดหนองคายจัดขึ้น โดยครั้งนี้ได้เยี่ยมการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม การสาวไหม และชมการผลิตผ้าไหม ที่ศาลากลางบ้านแบง หมู่ 2 ต.หนองหลวง อ.เฝ้าไร่ จ.หนองคาย

ปัจจุบัน จ.หนองคาย มีผู้ประกอบอาชีพปลูกหมอ่นเลี้ยงไหม ทั้งสิ้น 160 ครัวเรือน มีพื้นที่ปลูกหม่อน 76 ไร่ และการทอผ้า 5,500 เมตรต่อปี ราคาเฉลี่ยเมตรละ 1,000 บาท คิดเป็นมูลค่า 5,500,000 บาทต่อปี ซึ่งอาชีพหม่อนไหมนั้นเป็นอาชีพที่สามารถสร้างรายได้ในระยะเวลาอันสั้น ในปัจจุบันสามารถทำได้หลากหลายรูปแบบ เช่น การปลูกหม่อนเลี้ยงไหม การเลี้ยงไหมขายรังสด การทอผ้าไหม การปลูกหม่อนขายใบ การปลูกหม่อนผลสดเพื่อแปรรูป และอื่น ๆ ที่สามารถทำได้ทุกเพศทุกวัย และในทุกสถานการณ์แม้แต่ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยเฉพาะปัจจุบันประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงวัยมากขึ้น อาชีพการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม การทอผ้าไหม จะเป็นทางเลือกหนึ่งที่สร้างรายได้ สร้างอาชีพให้สามารถพึ่งพาตนเองได้

สำหรับอำเภอเฝ้าไร่ จ.หนองคาย เป็นพื้นที่ที่มีการประกอบอาชีพหม่อนไหมมากที่สุด เกษตรกรมีความรู้ความชำนาญ โดยเฉพาะด้านการทอผ้า เช่น ลายประจำจังหวัด ลายขอนารี และผ้ามัดหมี่อื่น ๆ ซึ่งกลุ่มปลูกหม่อนเลี้ยงไหมทอผ้าไหมบ้านแบง นับเป็นกลุ่มที่มีการปลูกหม่อนเลี้ยงไหมและทอผ้ามาเป็นเวลานานอย่างต่อเนื่อง.