สคทช. ลงพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ “ป่าดงหมู”ติดตามผลการดำเนินงานส่งเสริมพัฒนาอาชีพ

ดร.รวีวรรณ ภูริเดช ผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (ผอ.สคทช.) ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (คทช.) ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ “ป่าดงหมู” ตำบลอุ้มเหม้า อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม

โดย  ดร.รวีวรรณ ภูริเดช ผอ.สคทช. กล่าวว่า ในจังหวัดนครพนมมีพื้นที่เป้าหมายการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนจำนวนทั้งสิ้น 6 พื้นที่ เนื้อที่ประมาณ 100,724 ไร่ 2 งาน 92 ตารางวา ประกอบด้วย พื้นที่ ป่าสงวนแห่งชาติดงหมู 1,524 ไร่ 92 ตารางวา , พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าห้วยศรีคุณ 363 ไร่ 59 ตารางวา , พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงเซกา แปลงที่ 2 (ระยะที่ 1) 16,037 ไร่ 41 ตารางวา, พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงบ้านโพนสว่าง และป่าปลาปาก 47,355 ไร่ 67 ตารางวา , พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงเซกา แปลงที่ 2 (ระยะที่ 2) 37,120 ไร่ 25 ตารางวา,พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าบ้านโพนตูม และป่านางุม50 ไร่

ปัจจุบันได้ออกหนังสืออนุญาตเข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัย และจัดคนลงในพื้นที่พร้อมมอบสมุดประจำตัวผู้ที่ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชนให้กับประชาชนแล้ว  จำนวน 184 ราย 195 แปลง ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติดงหมู  และดำเนินการจัดตั้งสหกรณ์การเกษตรโสกแมว จำกัด เพื่อให้หน่วยงานภาครัฐได้เข้ามาพัฒนาส่งเสริมอาชีพในพื้นที่ เพื่อให้เกษตรกรสามารถใช้ประโยชน์จากที่ดินที่รัฐจัดสรรให้ ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด  สร้างมูลค่าในที่ดินทำกิน  สร้างรายได้   สร้างสวัสดิการทางสังคม และพัฒนาคุณภาพชีวิตให้เกษตรกรมีความเป็นอยู่ที่ดี มีรายได้มั่นคง ชุมชนสามารถพึ่งพาตนเองได้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และแนวทางทฤษฎีใหม่ อาทิเช่น การพัฒนาที่ดินและการใช้ประโยชน์ที่ดินบนพื้นฐานข้อมูล Zonig ผลิต – จัดหาเมล็ดพันธุ์พืชปุ๋ยสด (ปอเทือง) ส่งเสริมการปลูกพืชปุ๋ยสดปรับปรุงบำรุงดิน 625 ไร่ การทำปุ๋ยหมักสูตรพระราชทาน 20 ตัน การทำการใช้น้ำหมักชีวภาพ 800 ลิตร ส่งเสริมด้านการพัฒนาแหล่งน้ำและการพัฒนาปัจจัยพื้นฐาน ด้านการส่งเสริมและพัฒนาอาชีพ การจัดทำเมนูอาชีพเชิงบูรณาการ ด้านการส่งเสริมการรวมกลุ่ม ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพให้ความรู้ในการรวมกลุ่ม และบริหารงานในรูปแบบสหกรณ์ รวมทั้งส่งเสริมด้านการตลาดดำเนินการจัดตั้งสถาบันเกษตร 1 แห่ง การสนับสนุนเข้าถึงแหล่งทุนส่งเสริมและจัดทำบัญชีครัวเรือน ​เพื่อให้สหกรณ์มีความเข้มแข็งสามารถบริหารจัดการโดยชุมชนได้ และทําให้การบริหารจัดการที่ดินของชุมชนเกิดความยั่งยืน​ 

ในระยะต่อไป สคทช. ร่วมกับ กรมส่งเสริมสหกรณ์ และกรมป่าไม้ ในการเตรียมยกระดับสหกรณ์ที่มีความพร้อมในการปรับเปลี่ยนผู้ขอใช้ประโยชน์ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติจากผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นสหกรณ์ในพื้นที่ทั้งนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมความเข้มแข็งให้กับสหกรณ์และชุมชนในระยะยาว การพัฒนาระบบสาธารณูปโภคได้อย่างรวดเร็วตามนโยบายของชุมชน 

นอกจากนี้  สคทช.  ยังร่วมมือกับ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (พอช.) ในการสนับสนุนเรื่องที่อยู่อาศัย งบประมาณในการปรับปรุงบ้านให้กับเกษตรกรในพื้นที่ คทช. เฉลี่ยต่อครัวเรือนประมาณ 70,000 บาท โดยแบ่งเป็น งบสาธารณูปโภค และงบอุดหนุนการพัฒนาที่อยู่อาศัย ต่อไป