เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 2564 นพ.กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ ผู้ช่วยปลัดกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะผู้อำนวยโรงพยาบาลบุษราคัม กล่าวถึงการทำงานของบุคลาการและเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาล ว่า ปัจจุบันมีเจ้าหน้าที่ รพ.บุษราคัม จำนวน 300 คน โดยเป็นพยาบาล 200 คน มีเครื่องช่วยหายใจที่ต้องดูแล 200 เครื่อง ในส่วนเจ้าหน้าที่บุคลากร ต้องขอขอบคุณที่ทุกคนเสียสละหมุนเวียนมาช่วย ทั้งๆ ที่ในพื้นที่ของตนก็มีการระบาดเช่นกัน อย่างไรก็ตาม การปฏิบัติงานนอกจากเจ้าหน้าที่ ยังมีอาสาสมัครที่ตั้งชื่อว่าผู้ใหญ่บ้าน ทำหน้าที่ดูแลกลุ่มผู้ป่วยที่นอนรักษาในจำนวน 17-18 คน โดยผู้ใหญ่บ้าน หรืออาสาสมัครจะช่วยวัดไข้ ดูแล ประสานงานระหว่างแพทย์ พยาบาลและคนไข้ จึงขอขอบคุณทุกคนมากที่มาช่วยตรงนี้ ซึ่งได้ทำประกาศเกียรติคุณให้กับผู้ใหญ่บ้านมาโดยตลอด
เมื่อสอบว่าจะมีการจ้างงานหรือให้ค่าตอบแทนผู้ป่วยที่หายแล้วแต่ประสงค์อาสาสมัครช่วยงานใน รพ.บุษราคัม หรือไม่ นพ.กิตติศักดิ์ กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้ป่วยจำนวนมาก ซึ่งมีทั้งอาสาสมัคร มีทั้งผู้ป่วยมาช่วยกันเอง แม้แต่กลุ่มต่างด้าว อย่างเมียนมา 4-5 คน ทำคลิปวิดีโอ ช่วยทำความสะอาดห้องน้ำให้และพูดว่าช่วยกันรักษาความสะอาด และมีคนไทยอีกจำนวนมากที่ช่วยเหลือกันอีกด้วย ในส่วนของผู้ป่วยเอง เราก็ไม่ได้อยากไปใช้งาน แต่กรณีผู้ป่วยโควิดมีหลายระดับ อย่างรุนแรงน้อยคล้ายหวัดก็หายแล้ว เพียงแต่รอวันครบออก ซึ่งเขาก็ไปช่วยเหลือในสิ่งที่คิดว่าช่วยได้ แต่ก็มีอาสาสมัครหลายท่านมาช่วยงาน และยินดีช่วยมาตลอด
“ทางผู้บริหาร รพ.บุษราคัม มองว่า เนื่องจากเขาติดเชื้อแล้ว และมีภูมิต้านทาน เมื่อครบกำหนดกลับบ้าน แต่เขายินดีและอยากช่วยทำงานต่อ หากเขามีความสมัครใจเป็นเช่นนั้น เราควรให้ค่าตอบแทนเขา เพราะเขาหลุดพ้นจากการเป็นคนไข้ เขาหายแล้ว แม้เขาจะช่วยอาสาสมัคร แต่เราจะจัดค่าตอบแทนให้เหมาะสม และจัดที่อยู่ อาหารการกินให้พวกเขาตามที่เขายินดี ซึ่งตรงนี้ไม่น่าเรียกว่า เป็นการว่าจ้าง แต่เป็นการให้ค่าตอบแทนตามสมควร หลังจากครบกำหนดการป่วยแล้ว ซึ่งลักษณะคล้ายๆ การจ่ายค่าป่วยการ ค่าตอบแทนให้กับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้านหรือ อสม.” ผอ.รพ.บุษราคัม กล่าว
เมื่อถามถึงบุคลากรเจ้าหน้าที่ที่ทำงานใน รพ.บุษราคัม ได้รับค่าตอบแทนนอกเวลาราชการแล้วใช่หรือไม่ นพ.กิตติศักดิ์ กล่าวว่า ด้วยภาระงานที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงมีการปรับค่าตอบแทนนอกเวลาราชการ โดยปกติระเบียบค่าตอบแทนกระทรวงฯ สามารถปรับได้ตามภาระงานที่เพิ่มขึ้น บวกกับสถานะทางการเงินใน รพ.ที่เพียงพอหรือไม่ ซึ่งผู้บริหาร รพ.ได้ประชุมร่วมกัน และนำเสนอไปยัง รพ.พระนั่งเกล้า ซึ่งเป็น รพ.หลัก นำเสนอไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี และผู้ตรวจราชการเขตสุขภาพที่ 4 ซึ่งได้แจ้งว่า เมื่อหนังสือมาถึงก็จะอนุมัติตามขั้นตอน โดยจะปรับตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค. 2564 ปรับเป็น 3 เท่า ยกตัวอย่าง หากได้ 100 บาทก็จะเป็น 300 บาท เป็นต้น.