เมื่อวันที่ 31 ก.ค. น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ (กดยช.) เมื่อวันที่ 30 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งที่ประชุมมีมติเห็นชอบข้อเสนอของสมัชชาการพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ และของสมัชชาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ ประจำปี 2563 ซึ่งประกอบด้วย การพัฒนาคนรุ่นใหม่ให้มีความสนใจในการรับราชการ การพัฒนาตลาดสินค้าออนไลน์เพื่อผู้ประกอบการรุ่นเยาว์ การสร้างโอกาสทางอาชีพให้กลุ่มเปราะบาง การปรับหลักสูตรเพศศึกษา กฎและระเบียบในสถานศึกษาให้สอดคล้องกับความหลากหลายและการเปลี่ยนแปลงของสังคม การพิจารณาให้สิทธิเด็กและเยาวชนกลุ่มชาติพันธุ์เข้าถึงการกู้ยืมเงินจากกองทุนเพื่อการศึกษา การเปิดโอกาสให้นักเรียนนอกระบบสามารถใช้ประสบการณ์การทำงานเทียบเท่าเป็นหน่วยกิตบางวิชาในสถานศึกษา

น.ส.รัชดา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ที่ประชุมได้รับทราบการรายงานสถานการณ์ด้านเด็กและเยาวชน จากกรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งพบแนวโน้มและปัญหา อาทิ กรณีที่เด็กไม่ได้อาศัยอยู่กับพ่อและแม่มากขึ้น เพราะพ่อแม่ทำงานอยู่คนละจังหวัด จึงต้องให้ลูกอยู่กับปู่ย่าตายาย ภาวะโรคอ้วน เด็กรู้ไม่เท่าทันสื่อออนไลน์ ติดเกม ติดการพนัน โรคซึมเศร้าในกลุ่มเยาวชนอายุ18-25 ปี และล่าสุดข้อมูลของไตรมาสแรกปีนี้ระบุว่าเด็กไทยถือเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากประเทศญี่ปุ่น จากการที่เด็กกว่า 91 เปอร์เซ็นต์ เคยถูกกลั่นแกล้งรังแกด้วยการตบหัว การล้อชื่อพ่อแม่ การโดนดูถูกหรือพูดจาเหยียดหยาม

น.ส.รัชดา กล่าวว่า ทั้งนี้ กดยช.ได้ติดตามการดำเนินการของหน่วยงานต่างๆ ในการแก้ปัญหาดังกล่าว ซึ่งการที่จะทำให้หลายเรื่องสำเร็จได้ต้องสร้างความตระหนักในสังคมและครอบครัวถึงภัยใกล้ตัวและแนวทางที่ถูกต้องในการดูแลเด็กและเยาวชน ขณะเดียวกัน เพื่อให้การขับเคลื่อนงานด้านนี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ มีส่วนร่วมและครอบคลุมคนทุกกลุ่ม มุ่งเป้าสร้างคนรุ่นใหม่เป็นคนดีมีคุณภาพ นายจุรินทร์จึงได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อเสนอของสมัชชาเด็กและเยาวชน รวมถึงให้รายงานความคืบหน้าของการดำเนินการและการแก้ปัญหาให้คณะกรรมการฯ ทราบทุก 3 เดือน