เมื่อวันที่ 31 ก.ค. นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทย (มท.) หัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการสั่งการและประสานงานผู้ว่าราชการจังหวัดและผู้ว่าราชการ เปิดเผยว่า ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงมหาดไทย (ศบค.มท.) ได้รับแจ้งจากกระทรวงการต่างประเทศว่า รัฐบาลกัมพูชาได้ออกประกาศควบคุมการปิดพื้นที่ใน 8 จังหวัด ได้แก่ เกาะกง โพธิสัตว์ พระตะบอง ไพลิน บันเตียเมียนเจย อุดรเมียนเจย พระวิหาร และเสียมราฐ ซึ่งเป็นจังหวัดตรงข้ามกับจังหวัดชายแดนด้านประเทศกัมพูชา รวมถึงการบังคับใช้มาตรการระงับการใช้จุดผ่านแดนถาวรระหว่างกัมพูชา-ไทย เป็นการชั่วคราวโดยไม่อนุญาตให้มีการเดินทางเข้า-ออกระหว่างกัน ยกเว้นกรณีการส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉินและการขนส่งสินค้าเป็นเวลา 2 สัปดาห์ โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนของวันที่ 29 ก.ค. 64 ถึงวันที่ 12 ส.ค. 64 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้า 

นายฉัตรชัย กล่าวต่อว่า โดยการระงับใช้จุดผ่านแดนระหว่างกัมพูชา-ไทย เป็นการชั่วคราวนั้น จะส่งผลกระทบต่อการเดินทางกลับประเทศกัมพูชาของแรงงานกัมพูชาในประเทศไทย ซึ่งยังคงมีอย่างต่อเนื่อง โดยอาจมีแรงงานกัมพูชาที่ไม่สามารถข้ามไปฝั่งประเทศกัมพูชาได้ จนมีการตกค้างสะสมและกลายเป็นความแออัดในฝั่งไทย รวมทั้งอาจมีการลักลอบข้ามแดนผิดกฎหมาย ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินการของหน่วยงานในพื้นที่ในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จึงได้ประสานไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดเพื่อให้รับทราบมาตรการของประเทศกัมพูชา และแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่รับทราบเพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ชาวไทยและชาวกัมพูชาในพื้นที่รับทราบ เฝ้าระวัง และป้องกันการเดินทางออกนอกพื้นที่ของแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา โดยให้ปฏิบัติตามมาตรการทางสาธารณสุขและแนวทางที่ ศบค.มท. กำหนดไว้อย่างเคร่งครัด 

“สำหรับจังหวัดที่มีชายแดนติดกับประเทศกัมพูชา ให้เพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมการลักลอบเดินทางเข้าประเทศและการเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชา รวมทั้งการตั้งจุดตรวจและจุดสกัดในพื้นที่ชายแดน ทั้งนี้ หากมีความคืบหน้าในการประสานงานที่สำคัญในระดับท้องถิ่น จะต้องแจ้งกระทรวงมหาดไทยทราบต่อไป” นายฉัตรชัย กล่าว.