เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. น.ส.นุศรา จำปาคำ อายุ 26 ปี อาชีพขายของออนไลน์ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.บางบัวทอง เพื่อนำหลักฐานกรณี น.ส.หมวย (นามสมมุติ) อายุ 16 ปี ก่อเหตุลักทรัพย์โทรศัพท์มือถือยี่ห้อออปโป้ รุ่น A74 ราคา 8,000 บาท ภายในหมู่บ้าน ช.รุ่งเรือง 6 เลขที่ 199/33 หมู่3 ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เหตุเกิดวันที่ 28 พ.ค. ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 18.00 น.

น.ส.นุศรา เจ้าของโทรศัพท์ กล่าวว่า หลังจากที่ตนประกาศรับสมัครพนักงาน น.ส.หมวย ก็สมัครเข้ามาทางแชต ตนจึงตัดสินใจรับเข้ามาทำงาน โดยเริ่มงานวันแรกวันที่ 28 พ.ค. พอตกเย็น น.ส.หมวย ได้ขโมยโทรศัพท์มือถือของตนที่วางไว้บนโต๊ะทำงานไป ซึ่งตนมารู้ตัวว่าโทรศัพท์หายประมาณ 20.00 น. จึงทักแชตไปถาม ซึ่ง น.ส.หมวย ก็ตอบปฏิเสธว่าไม่ได้เอาไป ตนจึงไปแจ้งความไว้ที่ สภ.บางบัวทอง ต่อมาได้มีพลเมืองดีทักแชตมาบอกว่าเห็น น.ส.หมวย เอาโทรศัพท์ไปขายที่ร้านขายโทรศัพท์ภายในหมู่บ้านบัวทอง ต.บางรักพัฒนา อ.บางบัวทอง ตนจึงตามไปที่ร้านโทรศัพท์ดังกล่าว ปรากฏว่า น.ส.หมวย นำโทรศัพท์ของตนไปขายในราคา 2,500 บาท ตนจึงอธิบายให้เจ้าของร้านฟัง จึงได้โทรศัพท์มือถือกลับคืนมา สุดท้ายนี้อยากจะฝากไปถึงคนที่กำลังเปิดรับสมัครพนักงาน ขอให้เช็กประวัติของบุคคลนั้นๆ ให้ดีก่อน ไม่อย่างนั้น ความสงสารจะกลับมาทำร้ายตัวท่านเอง ถึงแม้ว่าตอนนี้ตนจะได้โทรศัพท์มือถือคืนมาแล้ว แต่ก็ยืนยันจะดำเนินคดีกับ น.ส.หมวย ให้ถึงที่สุดเพื่อไม่ให้ไปทำแบบนี้กับใครอีก

ด้านเจ้าของร้านมือถือ กล่าวว่า ขณะที่ตนเปิดร้านอยู่นั้น น.ส.หมวย ได้นำโทรศัพท์มือถือมาจำนำในราคา 2,500 บาท ตนจึงตรวจสอบว่าเครื่องติดปัญหาอะไรหรือเปล่า จากนั้นได้ขอให้ น.ส.หมวย นำบัตรประชาชนถ่ายเอกสารไว้เพื่อเป็นหลักฐาน อยากจะฝากไปถึงผู้ประกอบการร้านรับซื้อโทรศัพท์ทุกคน ขอให้ตรวจสอบข้อมูลลูกค้าให้ละเอียดถี่ถ้วน มิฉะนั้นท่านอาจจะเดือดร้อนเพราะมิจฉาชีพได้

ขณะที่ น.ส.จุฬาลักษณ์ นาคกายสิทธิ์ อายุ 25 ปี ผู้เสียหายอีกราย กล่าวว่า ตนเปิดอู่ซ่อมรถ จยย. ซึ่งทุกครั้ง น.ส.หมวย จะเข้ามากับแฟน จนวันหนึ่งน้องอ้างว่าทะเลาะกับแฟน และมาขออาศัยอยู่ด้วย จากนั้นกระเป๋าตังค์ของตนได้หายไป แต่ตนไม่ได้เอะใจอะไร แต่เท่าที่ดูท่าทีน้องมีพิรุธ ต่อมาพบว่าน้องได้ขโมยกระเป๋าสตางค์ของตนไปเป็นใบที่ 2 โดยในกระเป๋าสตางค์มีเงินสดจำนวน 5,000 บาท แล้วเอากระเป๋าของตนไปโยนทิ้งไว้ที่หลังบ้าน ซึ่งตนมีรูปภาพว่าน้องเอาไปโยนทิ้งจริง ก่อนหน้านี้จะมีเงินในกระเป๋าเล็กๆ น้อยๆ เป็นเงินในรถ และพระเครื่อง ตนก็ไปตามเอากลับคืนมาได้ ไม่คิดว่าน้องจะทำแบบนี้ เราสงสารและไว้ใจจึงให้มาอาศัยอยู่ในบ้าน อยากจะฝากเตือนถึงทุกคนว่า ไว้ใจใครไม่ได้ อยากให้เคสของตนเป็นเคสสุดท้าย ความสงสารคนบางครั้งอาจจะกลับมาทำร้ายตัวเราเองได้.