สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองยูวัลดี รัฐเทกซัส สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 30 พ.ค. ว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ และนางจิล ไบเดน สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง เดินทางไปยังโรงเรียนประถมศึกษา “ร็อบบ์” ที่เมืองยูวัลดี ในรัฐเทกซัส ซึ่งเกิดเหตุกราดยิงครั้งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 พ.ค.ที่ผ่านมา คร่าชีวิตนักเรียนอย่างน้อย 19 ราย และครูอีก 2 ราย ส่วนมือปืนวัย 18 ปี ถูกวิสามัญและเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และ นางจิล ไบเดน แสดงความไว้อาลัยที่ป้ายโรงเรียนประถมศึกษา “ร็อบบ์” ในเมืองยูวัลดี ที่รัฐเทกซัส ซึ่งเกิดเหตุกราดยิงครั้งใหญ่ มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 21 ราย


เหตุกราดยิงดังกล่าว เป็นการกราดยิงในโรงเรียนครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 10 ปี ของสหรัฐ นับตั้งแต่การกราดยิงที่โรงเรียนประถมศึกษา “แซนดี ฮุก” ในเมืองนิวทาวน์ รัฐคอนเนตทิคัต คร่าชีวิตนักเรียน 20 ราย และครู 6 ราย เมื่อปี 2555 กระตุ้นให้ทุกฝ่ายในสหรัฐออกมาเรียกร้องการปฏิรูปกฎหมายปืนอีกครั้ง เนื่องจากนับตั้งแต่ต้นปีนี้ สหรัฐเผชิญกับเหตุกราดยิงมากกว่า 200 ครั้งแล้ว


ทั้งนี้ เหตุกราดยิงตามการให้คำจำกัดความของสหรัฐ หมายถึงเหตุความรุนแรงจากอาวุธปืน ที่ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตตั้งแต่ 4 รายขึ้นไป โดยยังไม่รวมผู้ก่อเหตุ

เจ้าหน้าที่รักษากฎหมายในเมืองยูวัลดี รัฐเทกซัส ร่วมวางดอกไม้ แสดงความไว้อาลัย ให้แก่ผู้เสียชีวิตจากเหตุกราดยิง ที่โรงเรียนประถมศึกษา “ร็อบบ์”


อย่างไรก็ตาม สมาคมปืนไรเฟิลแห่งชาติ ( เอ็นอาร์เอ ) ซึ่งเป็นล็อบบี้ยิสต์อาวุธปืนใหญ่ที่สุด และทรงอิทธิพลสูงสุดในอเมริกา เดินหน้าวิจารณ์การปฏิรูปกฎหมายปืน เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ โดยยืนยันว่า การตรวจสอบประวัติของผู้ใช้งาน จะเป็นการลดความเสี่ยงของการเกิดอาชญากรรมได้มากกว่า


ขณะที่ กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐออกแถลงการณ์ เกี่ยวกับ การสอบสวนเป็นการภายใน และการถอดบทเรียน เพื่อนำไปสู่การปฏิรูปด้านการตอบสนองของตำรวจและเจ้าหน้าที่ท้องถิ่น ต่อเหตุกราดยิง หลังสำนักงานตำรวจเมืองยูวัลดียอมรับ “ความผิดพลาดมหันต์หลายอย่าง” ที่รวมถึง “การตัดสินใจผิดพลาด” ด้วยการรอเผชิญหน้ากับมือปืนโดยตรง แทนการบุกจู่โจมเข้าไปภายในโรงเรียน.

เครดิตภาพ : REUTERS