ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดอินทาราม ต.เหมืองใหม่ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม ได้จัดให้มีการเสวนาทางวิชาการขับเคลื่อนเครือข่ายการสาธารณสงเคราะห์ เสริมสร้างสังคมสุขภาวะ จ.สมุทรสงคราม โดยพระเทพสิทธิวิมล เจ้าคณะภาค 15 เจ้าอาวาสวัดคลองวาฬ พระอารามหลวง เป็นประธาน พระภาวนาวิสุทธิโสภณ เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสงคราม เจ้าอาวาสวัดประดู่ พระอารามหลวง นำคณะสงฆ์ ถวายสักการะ ก่อนถวายรายงานถึงวัตถุประสงค์การจัดงานดังกล่าว

จากนั้นพระเทพสิทธิวิมล ได้มอบเกียรติคุณให้คณะสงฆ์หน่วยงานภาครัฐ องค์กรภาคเอกชนและพุทธศานิกชนที่ร่วมโครงการในนามเครือข่ายจังหวัดสมุทรสงคราม ฆราวาส 50 จำนวน 79 เครือข่าย ก่อนจะให้โอวาทเน้นย้ำให้คณะสงฆ์ดูแลประชาชน จากนั้นมีการเสวนาทางวิชาการ เพื่อสรุปองค์ความรู้เกี่ยวกับการพัฒนาเครือข่ายสู่ความยั่งยืน ในรูปแบบในห้องประชุม และถ่ายทอดผ่านระบบออนไลน์ โดยรองศาสตราจารย์ดอกเตอร์ สุรพล สุยะพรม รองอธิการบดีฝ่ายกิจการทั่วไป ผู้อำนวยการหลักสูตรบัณฑิตศึกษา ภาควิชารัฐศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นผู้ดำเนินรายการ และพระมงคลวชิรากร ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร เลขานุการฝ่ายสาธารณสงเคราะห์มหาเถรสมาคม พระครูพิศิษฏ์ประชานาถ (ดร.หลวงพ่อแดง นันทิโย) เจ้าอาวาสวัดอินทาราม รองเจ้าคณะอำเภออัมพวา พระครูธรรมธรไพบูลย์ ญาณวิปุโล เจ้าอาวาสวัดประทุมคณาวาส รองศาสตราจารย์ ดอกเตอร์วาสนา แก้วหล้า มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์ นายนิพนธ์ เงินคงพันธ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านคลองเหมืองใหม่ เป็นผู้ทรงคุณวุฒิใน การร่วมเสวนาทางวิชาการ

พระมงคลวชิรากร กล่าวว่า คณะสงฆ์ได้ติดตามผลงานของ ดร.หลวงพ่อแดง จนทราบว่าเป็นรูปธรรมจับต้องได้ เป็นระบบเครือข่าย สามารถสืบต่อโครงการต่อไปได้ จึงเลือกพื้นที่แห่งนี้ เป็นต้นแบบ ต่อยอดให้คณะสงฆ์ในหนกลางได้มาเรียนรู้ และจะถอดองค์ความรู้หลวงพ่อแดงไปให้พระสงฆ์ศึกษาต่อไป นอกจากนี้หลวงพ่อแดงยังได้จัดโครงการสาธารณสงเคราะห์นอกพื้นที่ ในจังหวัดสุรินทร์ โดยสร้างธนาคารน้ำใต้ดิน มอบโคกระบือให้เป็นทุน ส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน โรงเรียนปลดหนี้ชาวนา จึงตั้งคำถามว่าทำไม ดร.หลวงพ่อแดงต้องไปสนับสนุนนอกพื้นที่ ทำไมต้องไปขยายเครือข่าย หาก ดร.หลวงพ่อแดงไม่ได้ทำต่อใครจะสานต่อ กระทั่งพบว่า ดร.หลวงพ่อแดงพบโอกาสถึงสาธารณสงเคราะห์ ว่าพื้นที่แห่งนี้ สามารถทำอย่างไรจะมั่นคงยั่งยืน คณะสงฆ์จึงร่วมสนับสนุนเคียงข้าง ดรงหลวงพ่อแดง ให้เห็นว่า ดร.หลวงพ่อแดงไม่ได้เดินเดี่ยว อีกทั้งโครงการพุทธเกษตร ที่ทำในสังคมชุมชนมาตั้งแต่ปี 2519 ซึ่งเห็นว่าพระสงฆ์เผยแพร่พระพุทธศาสนา ด้วยการศาสนาสงเคราะห์

พระครูพิศิษฎ์ประชานาถ กล่าวว่า การสาธารณสงเคราะห์ เสริมสร้างสังคมสุขภาวะ ของอาตมา ดำเนินการตามภาระกิจ 5 ด้าน คือ 1.ด้านสงเคราะห์ ได้แก่สงเคราะห์ผู้ประสบภัย สงเคราะห์ผู้ทุกข์ยาก สงเคราะห์ประชาชน สงเคราะห์เยาวชน 2.ด้านเกื้อกูล ได้แก่เกื้อกูลเกษตรกรแม่กลอง เกื้อกูลชาวนาไทย เกื้อกูลชุมชน เกื้อกูลประชาชน 3.ด้านพัฒนา ได้แก่พัฒนาธนาคารโคกระบือ พัฒนาธนาคารน้ำใต้ดิน พัฒนาโรงเรียนปลดหนี้ชาวนาไทย พัฒนาแม่กลอง 4.ด้านการบูรณาการ ได้แก่บูรณาการหลักพุทธธรรม พลังบวร หลัก 5 ท., งานหน่วยอบรมประชาชนประจำตำบล และปราชญ์ชาวบ้าน ฐานข้อมูลหลัก ได้แก่ หนังสือ บทความวิชาการ วิจัย สื่อสมัยใหม่ เฟซบุ๊ก ไลน์ ทั้งนี้อาตมาจะดำเนินการภายใต้คอนเซปต์พระสงฆ์ไม่ทิ้งประชาชน ยามมีลมหายใจก็จะทำต่อไป