ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมาธิการบริหารราชการแผ่นดิน วุฒิสภา นำโดย พลเอก อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ ประธานคณะกรรมาธิการฯ และ พลเอก ชูศักดิ์ เมฆสุวรรณ รองประธานคณะกรรมาธิการฯ นำคณะฯลงพื้นที่ ติดตาม เสนอแนะ และเร่งรัดการปฏิรูปประเทศ ณ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เพื่อติดตามงานปฏิรูปและพัฒนา จชต. ของ ศอ.บต. หน่วยงานประสานการพัฒนา จชต. โดยมี พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. รองเลขาธิการ ศอ.บต. และผู้บริหาร ศอ.บต. ร่วมให้การต้อนรับและประชุมรับมอบนโยบาย


พลเอก อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ กล่าวว่า คณะกรรมาธิการบริหารราชการแผ่นดินเดินทางมาเยือน ศอ.บต. โดยมีวัตถุประสงค์ในการติดตาม เสนอแนะ และเร่งรัดการปฏิรูปประเทศ พร้อมหารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน ตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ ในเรื่องแผนงาน แผนเงินและระบบกำลังคน เพื่อให้ ศอ.บต. รับทราบและประสานความร่วมมือกับจังหวัดต่างๆ พร้อมทั้งดำเนินการให้สอดคล้องตามยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนา จชต. ยุทธศาสตร์ของ กอ.รมน. และยุทธศาสตร์ชาติ โดยคณะกรรมาธิการได้เดินทางไปแล้ว 69 จังหวัด ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (27 พ.ค. 2565) มีกำหนดเชิญผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 7 จังหวัดในภาคใต้ มาพูดคุยและหารือ เพื่อเสนอแนะการปฏิรูปประเทศ การบริหารราชการแผ่นดิน ซึ่งจะครบจำนวน 76 จังหวัด อย่างไรก็ตามการเดินทางไปในทุกจังหวัด ทางคณะกรรมาธิการพบปัญหาว่า ประเทศไทยยังขาดระบบการเชื่อมโยงข้อมูลที่เรียกว่า big data โดยส่วนใหญ่แล้วแต่ละกระทรวง กรม หรือหน่วยงานท้องถิ่น ต่างมี data ของแต่ละหน่วยงาน แต่ขาดการเชื่อมโยงข้อมูล เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปดำเนินการต่อยอดให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด ซึ่งรัฐบาลมีนโยบายขับเคลื่อนหน่วยงานรัฐสู่ การเป็นรัฐบาลดิจิทัล จึงขอฝากให้ ศอ.บต. นำข้อมูลการพัฒนาเข้าสู่ระบบ Big data ที่คาดว่า จะดำเนินการแล้วเสร็จในอีก 2 เดือนข้างหน้า

 
ประธานคณะกรรมาธิการฯ กล่าวอีกว่า คณะกรรมาธิการฯ ขอชื่นชมการดำเนินงานพัฒนา จชต. ของ ศอ.บต. เนื่องจากเห็นการเปลี่ยนแปลงงานพัฒนาชายแดนใต้อย่างเป็นรูปธรรมในหลายมิติ อาทิ การนำข้อมูลความยากจนของประชาชนจาก TP map มาใช้เป็นประโยชน์ในการดำเนินการแก้ไขปัญหาความยากจน ให้ตรงตามกลุ่มเป้าหมาย การส่งเสริมอาชีพ ภายใต้ความสัมพันธ์ไทย-ซาอุดีอาระเบีย ซึ่ง ศอ.บต. ทำให้เห็นว่า งานพัฒนากับงานด้านความมั่นคง สามารถดำเนินการคู่ขนานไปด้วยกันได้ ส่งผลให้พื้นที่มีความมั่นคง ปลอดภัย ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี


พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. เผยถึงผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินงานพัฒนา จชต. ว่า การขับเคลื่อนงานเพื่อหนุนเสริมและเติมเต็มการพัฒนาทุกมิติ ศอ.บต.ใช้กลไก 2 ส่วน ประกอบด้วย การขับเคลื่อนงานตามแผนงานบูรณาการแก้ไขปัญหา จชต. และ การขับเคลื่อนงานผ่านคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) โดยการขับเคลื่อนงานของ ศอ.บต. ทุกมิติ สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี แผนปฏิรูปประเทศด้านบริหารราชการแผ่นดิน และสามารถสร้างความเข้มเข็งในการบริหารราชการในระดับพื้นที่ โดยการมีส่วนร่วมของประชาชน เกิดผลสัมฤทธิ์การขับเคลื่อนงานในพื้นที่ 5 จชต. ที่เป็นรูปธรรม คือ เหตุรุนแรงในช่วง ปี พ.ศ. 2561 – 2564 ลดลงจาก 136 เหตุการณ์ เหลือ 88 เหตุการณ์ มูลค่าการลงทุนรวมในช่วงปี พ.ศ. 2561 – 2564 เพิ่มขึ้นรวม 37,467 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 9,400 ล้านบาท จำนวนนักท่องเที่ยวในช่วงปี พ.ศ. 2561 – 2564 เพิ่มขึ้นรวม 27.6 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 6.9 ล้านคนต่อปี รายได้เฉลี่ยประชากรเพิ่มขึ้นจาก 96,552 บาทต่อคนต่อปี เป็น 97,252 บาทต่อคนต่อปี และมีการกระจายรายได้สู่พื้นที่ชุมชนเพิ่มขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ส่งผลให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นในทุกมิติและอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรมได้อย่างสงบสุขร่มเย็น


เลขาธิการ ศอ.บต. ยังกล่าวถึงการนำนโยบาย รัฐบาลดิจิทัลมาปรับใช้ในการบริหารงาน โดยการให้บริการประชาชนในพื้นที่ อาทิ การให้บริการด้านงานเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ เพื่อความสะดวก รวดเร็วและตอบสนองประชาชนอีกด้วย