ศึกฟุตบอลชาย กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 คู่ชิงชนะเลิศ “ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย กับ “ดาวทอง”​ เวียดนาม เจ้าภาพและแชมป์เก่า เตะที่ มีดิงห์ สเตเดี้ยม ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ในวันที่ 22 พ.ค. เวลา 19.00 น. ถ่ายทอดสด ททบ.5

โดยในการแถลงข่าวก่อนเกม เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ที่สำนักงานสหพันธ์ฟุตบอลเวียดนาม มาโน โพลกิง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะฟื้นฟูสภาพร่างกายของนักเตะกลับคืนมาภายใน 3 วันหลังจากที่ลงเล่น 120 นาที แต่เวียดนามก็เล่น 120 นาทีเช่นกัน ดังนั้นไม่มีใครได้เปรียบเสียเปรียบ รู้ดีว่าจะมีแฟนบอลของเวียดนามเข้ามาชมกันเต็มความจุสนามกว่า 40,000 คน แต่นั่นไม่ใช่ข้อได้เปรียบเดียวของเวียดนาม สิ่งสำคัญคือเวียดนามชุดนี้มีเวลาเตรียมตัวกันมากว่า 4 เดือนเต็ม ปาร์ค ฮังซอ ได้เก็บตัวทั้งชุดใหญ่-ชุดเล็กพร้อมกัน ก่อนจะเลือกนักเตะที่ดีที่สุดมาแข่งขัน ต่างจากทีมไทยที่มีเวลาเก็บตัวแค่วันเดียว ดังนั้นเวียดนามจึงเป็นทีมเต็งสำหรับนัดชิงชนะเลิศ

อย่างไรก็ตาม มาโน กล่าวว่า ทีมชาติไทยก็มาไกลแล้ว เป็นทีมรองสำหรับนัดนี้ก็จริงแต่ก็เล่นแบบไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว รู้ว่าจะเป็นเกมที่ยาก แต่ไทยก็มีทีมที่ดี เชื่อมั่นในทีมและคุณภาพของทีม ว่าจะเอาชนะและคว้าเหรียญทองมาครองได้

กุนซือชาวบราซิเลียน กล่าวต่อว่า ตนพอใจกับผลงานที่ผ่านมาของทีม แต่นัดชิงชนะเลิศมันจะยากกว่าแน่นอน อยู่ที่ว่าจะรับมือกับความกดดันอย่างไร เป็นเกมที่จะแสดงให้เห็นถึงคุณภาพของผู้เล่น เล่นในฟุตบอลแบบของตัวเอง ผู้เล่นต้องแสดงให้เห็นว่าแข็งแกร่งพอจะรับมือความกดดันตรงนี้ได้ เอาคุณภาพใส่ลงไปในสนาม ถ้ารับมือความกดดันต่างๆ ได้ ก็จะมีโอกาสในเกมนี้

ผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องที่นักเตะไทยโดนโซเชียลมีเดียโจมตีอย่างหนักหลังเกมกับอินโดนีเซีย มาโน กล่าวว่า เข้าใจว่าเกมที่แล้วเป็นเกมที่สูสี มีความดุเดือดช่วงท้ายเกม แฟนฟุตบอลก็มีแพสชั่นอย่างมาก แต่เรื่องในโลกโซเชียลไม่สามารถควบคุมได้ มีแฟนบอลแบบนี้อยู่ในโลกอยู่แล้ว ทั้งๆ ที่ความจริงนักฟุตบอลสู้กันในสนามเต็มที่ แต่จบเกมก็จับมือกัน ให้กำลังใจกันตามปกติ

“อย่างไรก็ตามเราต้องไม่สนใจเรื่องนี้แล้ว สิ่งที่ต้องสนใจคือเกมนัดชิงชนะเลิศ ต้องตัดโลกโซเชียลออกไปให้หมด เรามีเป้าหมายที่สำคัญรออยู่ เราต้องทำจิตใจให้แข็งแกร่งและมีผลงานที่ดีในนัดชิงชนะเลิศ” มาโน่ กล่าว