ฟุตบอลชาย กีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 คู่ชิงชนะเลิศ เป็นการพบกัน ระหว่าง “ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย กับ “ดาวทอง”​ เวียดนาม เจ้าภาพและแชมป์เก่า เตะที่ มีดิงห์ สเตเดี้ยม ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ในวันที่ 22 พฤษภาคม เวลา 19.00 น. ถ่ายทอดสดทางช่อง 5

ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 พ.ค. มีการแถลงข่าวก่อนเกมอย่างเป็นทางการที่สำนักงานสหพันธ์ฟุตบอลเวียดนาม ฝั่ง ปาร์ค ฮังซอ เฮดโค้ชเวียดนาม กล่าาวว่า เป็นความหวังของแฟนบอลทั้งประเทศที่ต้องการได้เหรียญทอง ดังนั้นจะทำให้ผู้เล่นกดดันอย่างมาก ทีมไทยเป็นทีมที่ดี ยิงได้ 13 เสียแค่ 2 ประตู ซึ่งประตูที่เสียมาจากเกมแรกที่เหลือ 10 คน เท่ากับว่าทีมไทยมีเกมรับที่ดี ต้องหาจุดอ่อนของไทยให้ได้และเตรียมทีมให้ดีที่สุด บอกไม่ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นใน 90 นาทีในเกมฟุตบอล แต่ต้องมีสมาธิและทำผลงานให้ดีที่สุด

ส่วนเรื่องสถิติ ที่เวียดนาม ไม่เคยชนะไทย (ชนะล่าสุดในชื่อเวียดนามใต้) โค้ชปาร์ค กล่าวว่า เป็นเรื่องในอดีต เพราะตัวเองก็ไม่ได้คุมทีมนั้น และผู้เล่นก็ไม่ได้อยู่ในทีมชุดนั้นด้วย เมื่อลงเล่นนัดชิงชนะเลิศจะกดดัน ต้องก้าวข้ามความกดดันนี้ให้ได้

โค้ชปาร์ค กล่าวต่อว่า ซีเกมส์หนก่อนเป็นครั้งแรกเป้าหมายคือเหรียญทองซึ่งมันก็มีความกดดัน โชคดีที่นักเตะนั้นทำได้ดีคว้าเหรียญทองมาได้ แต่ครั้งนี้เล่นในบ้าน มีความได้เปรียบมากมายแต่ก็มีความกดดันมากเช่นกัน จะทำออกมาให้ดีที่สุด

นอกจากนี้ ปาร์ค ฮังซอ ยังได้พูดถึง มาโน โพลกิง เฮดโค้ชไทยซึ่งเคยเจอกันในเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ รอบรองชนะเลิศ (ไทยชนะ 2-0 และเสมอ 0-0) มาแล้วว่า เป็นคนบราซิลแต่ก็อยู่ในประเทศไทยมานาน และยังเคยมีประสบการณ์ในประเทศเวียดนามด้วย ดังนั้นจึงรู้จักทั้ง 2 ทีมเป็นอย่างดี และมาโน เองก็เป็นโค้ชที่ดีด้วย ฉะนั้นเกมอาจจะไม่ต่างจากตอนซูซูกิ คัพ

(Cr.pic. : VFF)