เมื่อวันที่ 29 ก.ค.นายชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า จน โง่ หยิ่ง จากประสบการณ์ของผม หากใครมีครบ 3 คุณสมบัติอย่างที่ว่า เป็นอันไม่มีทางประสบความสำเร็จได้ หากจน ต้องไม่โง่ หากโง่ ต้องไม่หยิ่ง หากหยิ่ง ต้องไม่จน เมื่อรัฐบาลปฏิเสธไม่เข้าร่วมโครงการ Covax ขององค์กรอนามัยโลก ที่จัดวัคซีนโควิดให้ประเทศต่างๆ ที่ยากจนตั้งแต่แรก
ด้วยเหตุผลว่าประเทศเรา “ไม่ได้ยากจนนะครับ” มีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ทั้งๆ ที่ประเทศอย่างมาเลเซีย บรูไน ยังเข้าร่วมแต่พอตอนนี้เข้าตาจน วัคซีนไม่ได้เตรียมการ ในขณะที่ประเทศต่างๆ ซื้อวัคซีนตุนให้ประชาชนตัวเองไว้ก่อน รัฐบาลไทยจึงเข้าข่ายโง่
แล้วแถมยังเย่อหยิ่ง ไม่สนใจบริหารงานสถานการณ์ฉุกเฉิน (จริงๆ) เพราะวันๆ เอาแต่แถลงข่าวแก้ตัวไปตามเรื่องตามราว (เฉพาะวันจันทร์ – ศุกร์ เวลาราชการ) ว่าซื้อวัคซีนแล้ว เตรียมไว้แล้ว 100 ล้านโดส ได้แน่นอน แต่กว่าจะได้เลื่อนแล้วเลื่อนอีกปาไปโน่นปลายปี
ประชาชนต้องเข้าแถวแออัดรอฉีดวัคซีนบ้าง รอเตียงบ้าง ติดเชื้อตายคาบ้านบ้าง ตายข้างถนนบ้าง นี่ถ้ารัฐบาล รวย ฉลาด และไม่หยิ่ง ได้วัคซีนที่ไหน อย่างไร ขอให้เอามาเยอะไว้ก่อน คงไม่เจอสภาพแบบนี้ ที่ท้ายสุดต้องบากหน้าไปขอรับบริจาคจากองค์กรอนามัยโลกอยู่ดี
แต่คนไทยสังเวยตาย ติดเชื้อพุ่งกระฉูด เพราะรัฐบาลทั้ง จน โง่ แล้วยังหยิ่ง ครบถ้วนนายกฯ ที่ถูก “ด่า” มีทุกยุคทุกสมัย แต่ที่โดน “แช่ง” ผมล่ะนึกไม่ออกจริงๆ ว่าใครโดนมากสุดในประวัติศาสตร์ชาติไทยเท่าที่เคยมีนายกฯ มา? คงได้ถูกบันทึกไว้ ให้อนาคตลูกหลานได้อ่านว่า “ทำไมโง่แบบนี้วะ ?!”