สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 14 พ.ค.ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน เป็นประธานการประชุมสุดยอดสมัยพิเศษ ครั้งที่ 2 ระหว่างผู้นำสหรัฐ กับผู้นำประเทศสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ที่กรุงวอชิงตัน เนื่องในโอกาสครบรอบ 45 ปี แห่งการสถาปนาความสัมพันธ์

The White House

ไบเดนกล่าวว่า สหรัฐมุ่งมั่นสร้าง “ยุคสมัยใหม่” ในความสัมพันธ์กับอาเซียน และ “ข้อตกลงแห่งยุคสมัยในอีก 50 ปีนับจากนี้” จะเกิดขึ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากความร่วมมือระหว่างสหรัฐกับอาเซียน มีแต่จะเจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้นไป

นางกมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐ


ขณะที่รองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส กล่าวเสริมว่า สหรัฐและอาเซียน “มีวิสัยทัศน์หลายด้านร่วมกัน” ขณะที่การประชุมร่วมกันครั้งนี้คือการย้ำว่า สหรัฐ “ยังคงเป็นส่วนหนึ่ง” ของภูมิภาค และกล่าวย้ำ “ความจำเป็น” ของการรักษา “เสรีภาพในการลาดตระเวนทางทะเล” โดยรัฐบาลวอชิงตันพร้อมสนับสนุนการดำเนินงานทุกด้านของอาเซียน ในการจัดการกับ “ภัยคุกคาม” ที่มีต่อบรรทัดฐานระหว่างประเทศ และยืนยันว่า สหรัฐจะมอบความช่วยเหลือด้านวัคซีนให้แก่อาเซียนต่อไป หลังบริจาคไปแล้วมากกว่า 115 ล้านโด๊ส

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทย


แม้ไบเดนและแฮร์ริสไม่กล่าวโดยตรงถึงจีนตลอดการประชุม แต่เป็นที่ทราบกันดี ว่าสหรัฐจัดการหารือครั้งนี้ เพื่อพยายามคานอำนาจกับจีนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังห่างหายจากภูมิภาคแห่งนี้ไปนาน ตลอดยุคของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์


ทั้งนี้ ไบเดนเสนอชื่อนายโยฮันเนส อับราฮัม ให้ทำหน้าที่เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำอาเซียนคนใหม่ โดยตำแหน่งนี้ว่างเว้นตลอด 4 ปีที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่ง


อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวในรัฐบาลวอชิงตันยอมรับว่า สหรัฐจำเป็นต้องเพิ่มความพยายามเข้าหาอาเซียนอีกหลายเท่า เมื่อเทียบมูลค่างบประมาณสนับสนุน ที่รัฐบาลวอชิงตันประกาศให้ 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 5,211.38 ล้านบาท) แต่เมื่อเดือน พ.ย. ปีที่แล้ว จีนประกาศทุ่ม 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 52,113.75 ล้านบาท) สนับสนุนการพัฒนาอาเซียน ภายในกรอบระยะเวลา 3 ปี.

เครดิตภาพ : REUTERS