สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา เมื่อวันที่ 11 พ.ค. ว่า ประธานาธิบดีโกตาพญา ราชปักษา แถลงขอให้ชาวศรีลังกาอยู่ในความสงบ และยุติการก่อความรุนแรง พร้อมทั้งยืนยันว่า รัฐบาลจะพยายามอย่างสุดความสามารถ เพื่อคลี่คลายวิกฤติเศรษฐกิจ และฟื้นฟูเสถียรภาพทางการเมือง
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายต่อต้านรัฐบาลเรียกร้องราชปักษาผู้น้องต้องลาออกจากตำแหน่งเช่นกัน หลังนายมหินทา ราชปักษา พี่ชายของโกตาพญา ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่เพิ่งรับตำแหน่งได้เพียงเดือนเดียว ต้องพ้นจากตำแหน่งตามไปด้วย เพื่อบรรเทาความโกรธแค้นของประชาชน ซึ่งประท้วงครั้งใหญ่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 8 ราย และได้รับบาดเจ็บมากกว่า 150 คน
ขณะที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ ( ไอเอ็มเอฟ ) ยืนยันว่า การเจรจาเรื่องความช่วยเหลือทางการเงินครั้งใหม่กับศรีลังกาจะยังคงเดินหน้าต่อไปตามกำหนดการ ปัจจุบัน ศรีลังกากำลังเผชิญกับวิกฤติเศรษฐกิจครั้งรุนแรงที่สุด นับตั้งแต่ได้รับเอกราชจากสหราชอาณาจักร เมื่อปี 2491 ส่งผลกระทบอย่างหนักต่อการดำรงชีวิตประจำวันของประชาชน เนื่องจากพลังงาน และสิ่งของจำเป็นแทบทุกชนิดขาดแคลน อีกทั้งยังคงต้องมีการตัดกระแสไฟฟ้า วันละ 13 ชั่วโมง
ทั้งนี้ ด้วยเหตุที่การลาออกของมหินทายังไม่สามารถบรรเทาความรุนแรงได้มากนัก การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินครั้งใหม่จึงรวมถึงการเพิ่มอำนาจให้แก่กองทัพ สามารถใช้ “กระสุนจริง” กับผู้ที่ทำลายทรัพย์สินสาธารณะ และมีพฤติกรรมคุกคามชีวิตของประชาชนทั่วไป
ด้านกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐวิจารณ์มาตรการดังกล่าว เรียกร้องรัฐบาลศรีลังกาสอบสวนเหตุการณ์รุนแรงทั้งหมดด้วยความโปร่งใส และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอดกลั้น.
เครดิตภาพ : REUTERS
