เมื่อวันที่ 29 ก.ค. นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้มีการโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ถึงการจำลองฉากทัศน์การระบาดของโรคโควิด-19 จัดทำโดยกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค โดยใจความโดยสรุปว่านโยบายล็อกดาวน์ มีผลลดจํานวนผู้ติดเชื้อใหม่และผู้เสียชีวิตในระยะสั้นไม่มากนัก แต่ส่งผลลดจํานวนผู้ป่วยในระยะยาว ทั้งนี้ หากล็อกดาวน์หนึ่งเดือน (เริ่ม 19 ก.ค. 64) คาดว่าจะสามารถชะลอจุดสูงสุดของการใช้ทรัพยากรถึงต้นเดือนตุลาคม และหากล็อกดาวน์สองเดือน คาดว่าจะสามารถชะลอจุดสูงสุดของการใช้ทรัพยากรถึงปลายเดือนพฤศจิกายน

หากมาตรการล็อกดาวน์ได้ผลมากขึ้น น่าจะสามารถชะลอจุดสูงสุดของการใช้ทรัพยากรได้ประมาณสองสัปดาห์ แต่ขนาดของการระบาดโดยรวมไม่เปลี่ยนไปมากนัก หากมาตรมาตรการล็อกดาวน์ได้ผล และร่วมกับมาตรการวัคซีนในผู้สูงอายุได้ผลดี และดําเนินการได้รวดเร็วในเวลาไม่เกิน 2 เดือน น่าจะช่วยคงให้ความชุกของการใช้เครื่องช่วยหายใจไม่เกิน 1,500 รายต่อวัน และอุบัติการณ์การเสียชีวิตไม่เกิน 200 รายต่อวัน ไปจนถึงเดือนธันวาคม

อย่างไรก็ตาม หากไม่มีมาตรการล็อกดาวน์เลยในทางทฤษฎีจะทำยอดเสียชีวิตสูงเกิน 500 รายต่อวัน ใส่ท่อช่วยหายใจมากกว่า 4.5 พันราย.