สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 7 พ.ค. ว่าบรรดาผู้สมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของฟิลิปปินส์ ลงพื้นที่หาเสียงตามต่างจังหวัด ตลอดทั้งสัปดาห์นี้ เพื่อพยายามเข้าถึงประชาชนทุกกลุ่มให้ได้มากที่สุด ก่อนถึงวันลงคะแนน คือ 9 พ.ค. ที่จะถึงนี้

Rappler

นายเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ หรือ “บองบอง” วุฒิสมาชิกวัย 64 ปี ซึ่งเป็นผู้สมัครตัวเก็งของการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดี กล่าวว่า การเดินสายหาเสียงทั่วประเทศ เป็นส่วนหนึ่งในการแสดงความมุ่งมั่นของเขาและทีมงาน เพื่อการจัดตั้งรัฐบาลสมานฉันท์

ผู้สนับสนุนนายเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ รวมตัวกันที่เมืองซาน เฟอร์นันโด ในจังหวัดปัมปังกา ทางตอนกลางของฟิลิปปินส์


ทั้งนี้ หากมาร์กอส จูเนียร์ บุตรชายคนเดียวของอดีตประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส ผู้ล่วงลับ สามารถคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ได้จริง จะเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ทางการเมืองครั้งสำคัญให้แก่ฟิลิปปินส์ เนื่องจากเกิดขึ้น 36 ปี หลังการปฏิวัติประชาชน โค่นอำนาจรัฐบาลมาร์กอส ที่ปกครองประเทศด้วยกฎอัยการศึก และมีการทุจริตอย่างเปิดเผย

นางเลนี โรเบรโด ขึ้นเวทีปราศรัย ที่เมืองบาเกียว ในจังหวัดเบงเก็ต ทางตอนเหนือของเกาะลูซอน


ขณะที่ผู้สันทัดกรณีทางการเมืองของฟิลิปปินส์วิเคราะห์ไปในทางเดียวกัน ว่ากระแสนิยม มาร์กอส จูเนียร์ ณ เวลานี้ คือผลสำเร็จของความพยายามที่ยาวนานกว่า 1 ทศวรรษ ในการ “ปรับภาพลักษณ์” ที่อาจแฝงนัยของความพยายาม “แก้ไขประวัติศาสตร์”

ผู้สนับสนุนนางเลนี โรเบรโด ร่วมกันเดินขบวนในกรุงมะนิลา


จากจำนวนผู้สมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีทั้งหมด 10 คน ตอนนี้ชัดเจนแล้วว่า เป็นการแข่งขันระหว่างมาร์กอส จูเนียร์ กับนางเลนี โรเบรโด รองประธานาธิบดีคนปัจจุบัน ซึ่งเฉือนชนะมาร์กอส จูเนียร์ ในการเลือกตั้งเมื่อ 6 ปีที่แล้ว ด้วยคะแนนเสียงที่มากกว่าเพียง 0.34% และเธอสามารถปลุกกระแสเฟมินิสต์ได้มากขึ้นอย่างชัดเจน ในช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียง นอกจากนี้ บรรดาผู้มีชื่อเสียงทั้งในทางการเมือง และวงการบันเทิง ต่างออกมาประกาศสนับสนุนโรเบรโดมากขึ้นด้วย.

เครดิตภาพ : REUTERS