ท่ามกลางวิกฤติโควิด-19 ที่กราฟคนป่วย-คนตายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ จากผู้นำประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กประกาศ เดินหน้าทำสงคราม ล้างบาง ข่าวปลอม หรือ “เฟคนิวส์” (Fake News) ข้อหา ทำให้เกิดความสับสนวุ่นวายในสังคม ท่ามกลางวิกฤติโควิด-19
พล.อ.ประยุทธ์ เน้นย้ำ ขณะนี้ประเทศไทยอยู่ภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และได้สั่งการหน่วยงานเกี่ยวข้องเดินหน้าปราบเฟคนิวส์ ตามข้อกำหนดข้อที่ 11 จากประกาศฉบับที่ 27 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และให้ดำเนินคดีกับคนที่ปล่อยข้าวปลอมรายใหญ่ทั้งจากสื่อมวลชน, คนดัง, เพจต่างๆ ไม่ใช่จับแค่ชาวบ้านทั่วไปเท่านั้น
“ข้อสั่งการทั้งหมดนี้ ผมจะติดตามการดำเนินการอย่างใกล้ชิด โดยขอให้ดำเนินการให้เร็วที่สุดและขอให้รายงานความคืบหน้าต่อผมก่อนการประชุม ครม. ครั้งหน้า และรายงานต่อเนื่องก่อนการประชุม ครม. ทุกครั้ง” พล.อ.ประยุทธ์ ย้ำ
ปัญหาที่หลายฝ่ายกังวลตอนนี้ คือข้อกำหนดข้อที่ 11 จากประกาศฉบับที่ 27 ของ พ.ร.ก.ฉุกเฉินเรื่องห้ามบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร มีปัญหาในแง่การตีความกฎหมาย เนื่องจากเขียนแบบกว้าง (Extensive Interpretation)
โดยในข้อ 11 ระบุถึงการเสนอข่าวหรือการทำ ให้แพร่หลายซึ่งหนังสือ สิ่งพิมพ์ หรือสื่ออื่นใดที่มีข้อความอาจทำให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว
หรือเจตนาบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร ทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสถานการณ์ฉุกเฉินจนกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน เป็นความผิดตามมาตรา 9 (3) แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท
การเขียนกฎหมายที่ทำให้ตีความแบบกว้าง ครอบจักรวาล ส่งผลให้ แม้นำเสนอ ข่าวหรือโพสต์เรื่องจริง แต่หากมีข้อความที่อาจทำให้ผู้คนเกิดความ หวาดกลัว เท่ากับอาจเข้าข่ายความผิดตามกฎหมาย
เปิดช่องให้ผู้มีอำนาจใช้ดุลพินิจเช็กบิลสุ่มเสี่ยงกระทบเสรีภาพการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน และกระทบสิทธิการรับรู้ข่าวสารของประชาชน ในสถานการณ์วิกฤติโรคระบาด
หากพูดกันแบบตรงไป-ตรงมาโจทย์สำคัญที่ รัฐบาลต้องเร่งแก้ปัญหาตอนนี้ ไม่ใช่เรื่อง เฟคนิวส์ หากแต่ต้องไปยกเครื่องระบบราชการ ที่ไม่ตอบโจทย์ในสถานการณ์โรคระบาด
การระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นภาพ ระบบราชการ มีขั้นตอนทำงานซับซ้อน-ยึดติดระเบียบ-ไม่ยืดหยุ่น-ขั้นตอนเยอะ-เปลี่ยนแปลงยาก ส่งผลให้ การแก้ปัญหาโควิด-19 ล่าช้าทั้งเรื่องนำเข้าวัคซีน และการหาเตียงให้คนป่วยกลุ่มสีแดงทำให้เห็นภาพหลายคนต้องนอนป่วยตายคาบ้าน
สถานการณ์ตอนนี้ เปรียบเทียบให้เห็นภาพ เสมือนบ้านกำลังไฟไหม้ แต่ต้องยื่นขอใบอนุญาตใช้น้ำดับไฟ!!
อย่าลืมว่ารัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 มาตรา 258 เขียนชัดเจนให้รัฐบาลขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านต่างๆ และนำไปสู่การทุ่มงบประมาณมหาศาลจัดทำ แผนปฏิรูปประเทศด้านการบริหารราชการแผ่นดิน
ตั้งเป้าสวยหรู(1) ให้ภาครัฐมีบริการที่สะดวก รวดเร็ว และตอบโจทย์ชีวิตประชาชน (2) มีระบบข้อมูลที่ทันสมัย ก้าวสู่รัฐบาลดิจิทัล (3) การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ คล่องตัว โปร่งใส มีกลไกป้องกันการทุจริต
วิกฤติโรคระบาดครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมาการปฏิรูปด้านบริหารราชการแผ่นดิน มีความคืบหน้ามาก-น้อยเพียงใด
นาทีนี้ สิ่งที่ผู้มีอำนาจควรทำเร่งด่วนหาใช่เรื่องการไล่ปราบเฟคนิวส์ ปิดปากคนเห็นต่างหากแต่คือการไล่รื้อระบบที่ไม่ตอบโจทย์สถานการณ์โรคระบาด หากใช้รูปแบบราชการทำงานปกติแก้ปัญหาวิกฤติ ตอนจบเรื่องนี้คนไทยทั้งประเทศสาหัสแน่นอน.