ทีมนักโบราณคดีจากมหาวิทยาลัยกริฟฟิธ ในภูมิภาคควีนส์แลนด์ตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศออสเตรเลีย ได้ทำการตรวจสอบสารตกค้างภายในภาชนะเซรามิกที่มีรูปทรงกลมป้านด้านบน แต่มีลักษณะทรงกรวยแหลมด้านล่าง พบว่ามีการใช้งานภาชนะเหล่านี้เพื่อหลายจุดประสงค์ โดยตรวจพบว่ามี 3 ชิ้นใช้บรรจุน้ำมัน ส่วนผสมที่ให้กลิ่นหอมและยา

โถเซรามิกโบราณจากอิหร่าน ผลิตขึ้นระหว่างศตวรรษที่ 9-10 ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกับโถเซรามิกที่พบในเยรูซาเล็ม

อย่างไรก็ตาม เมื่อตรวจสอบโถเซรามิกที่มีชื่อรหัสว่า ‘Shred 737’ ทีมนักโบราณคดีก็พบหลักฐานที่บ่งชี้ว่าโถเซรามิกเหล่านี้อาจถูกนำไปใช้เป็นอาวุธประเภทระเบิดมือ

จากการตรวจสอบพบว่า โถ Shred 737 เป็นโถที่มีความหนา ไม่มีการตกแต่งลวดลาย มีร่องรอยการซีลปิดด้วยเรซิน และมีเศษของสารเคมีที่ติดไฟ ซึ่งเป็นส่วนผสมสำคัญในการทำระเบิดมือในยุคกลาง

ก่อนหน้านี้ ทีมนักวิจัยสันนิษฐานว่า ระเบิดมือยุคกลางจะต้องมีดินปืนเป็นส่วนประกอบ แต่ดินปืนซึ่งเป็นสิ่งที่จีนพัฒนาขึ้นมาเป็นชาติแรก ไม่เคยปรากฏในดินแดนตะวันออกกลางก่อนศตวรรษที่ 13 

สงครามครูเสดซึ่งเป็นสงครามศาสนาครั้งใหญ่ นำโดยกองทัพชาวคริสเตียนในยุโรปทำศึกเพื่อดินแดนศักดิ์สิทธิ์คืนจากผู้ปกครองชาวมุสลิม เกิดขึ้นระหว่าง ค.ศ. 1095-1291 จึงมีการสันนิษฐานว่าโถเซรามิกเหล่านี้จะเป็นสิ่งของที่ผลิตขึ้นในศตวรรษที่ 11-12 

โถ Shred 737 มีร่องรอยของสารประกอบที่เป็นวัตถุระเบิด โดยเป็นส่วนผสมของน้ำมันพืช ไขมันสัตว์ ดินประสิว และกำมะถัน นอกจากนี้ยังมีหลักฐานบ่งชี้ว่าอัศวินที่ไปรบในสงครามครูเสดเหล่านี้ได้คิดค้นสูตรระเบิดมือสูตรเฉพาะของตัวเองขึ้นมาด้วย 

การค้นพบครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่พบส่วนผสมที่หลากหลายของอาวุธประเภทระเบิดโบราณซึ่งสอดคล้องกับบันทึกที่ปรากฏในประวัติศาสตร์ของชาวอาหรับ และถือเป็นกรณีศึกษาที่สำคัญมาก เพราะช่วยให้มีความคืบหน้าในการศึกษาอาวุธสงครามที่ใช้ในยุคกลางในดินแดนตะวันออกกลาง รวมทั้งช่วยยืนยันข้อเท็จจริงในบันทึกเกี่ยวกับนักรบครูเสด ซึ่งระบุว่าพบเห็นการใช้อาวุธมือที่สามารถทำให้เกิดการระเบิดเสียงดังพร้อมกับประกายไฟและแสงสว่าง 

ทีมงานแถลงว่ายังคงจำเป็นต้องมีการศึกษาอย่างต่อเนื่องต่อไปเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีการใช้อาวุธระเบิดในยุคกลาง

แหล่งข่าว : businessinsider.com

เครดิตภาพ : news.griffith.edu.au, Getty Images