“บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ระหว่างวันที่ 12-23 พ.ค.นี้ ต้องยอมรับว่าครั้งนี้เป็นซีเกมส์ที่ยากลำบากที่สุดครั้งหนึ่งในการเตรียมนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขัน เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้การแข่งขันต้องเลื่อนจากปี 2021 มาแข่งขันในปี 2022 ส่งผลให้การวางแผนการฝึกซ้อมของสมาคมกีฬาต่าง ร่วมกับ กกท. มีความกระชั้นชิดในการเตรียมนักกีฬาอย่างน้อย 6 เดือน

อย่างไรก็ตาม แม้การเตรียมนักกีฬาจะมีอุปสรรค แต่ กกท.ได้ให้การสนับสนุนนักกีฬาทุกด้านโดยเฉพาะเรื่องของวิทยาศาสตร์การกีฬา ที่นำมาใช้อย่างเต็มที่เพื่อให้นักกีฬามีความพร้อมมากที่สุด เนื่องจากกีฬาซีเกมส์มีความสำคัญต่อการพัฒนาการกีฬาของชาติ เป็นมหกรรมกีฬาแห่งความภาคภูมิใจและแฟนกีฬาไทยตั้งความหวังไว้สูงมาก โดยนักกีฬาไทย ขณะนี้มีความพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ และจะเริ่มทยอยเดินทางสู่เวียดนาม ในเดือน พ.ค.นี้ เนื่องจากบางชนิดกีฬาจะมีโปรแกรมแข่งขันก่อนพิธีเปิดการแข่งขัน อาทิ ฟุตบอลทีมชาย ซึ่ง ทีมชาติไทยจะประเดิมสนามพบ มาเลเซีย ในวันที่ 7 พ.ค.นี้

ผู้ว่าการ กกท. กล่าวอีกว่า กกท. ทำงานร่วมกับ คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ และสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย โดยกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ได้จัดสรรงบประมาณเตรียมนักกีฬาและส่งแข่งขันรวมแล้วประมาณ 700 ล้านบาท มีเป้าหมายสำคัญคือต้องทำผลงานให้มีการพัฒนาขึ้นกว่าเดิม โดยในซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ประเทศฟิลิปปินส์ ปี 2019 ทัพไทย ได้อันดับ 3 ทำได้ 92 เหรียญทอง 103 เหรียญเงิน 123 เหรียญทองแดง แต่ในซีเกมส์ ครั้งที่ 31 นี้ โอกาสที่ไทยจะเป็นเจ้าเหรียญทองในตารางเหรียญรวมนั้นน้อยมาก กกท. จึงมุ่งเน้นไปที่การเป็นเจ้าเหรียญทองกีฬาสากล ที่มีบรรจุแข่งขันในโอลิมปิกเกมส์ เป็นหลัก

“กีฬาซีเกมส์ ควรจะเป็นเวทีสร้างนักกีฬาดาวรุ่งขึ้นมาเพื่อไปสู่เอเชี่ยนเกมส์และโอลิมปิกเกมส์ต่อไป ในซีเกมส์ครั้งที่ 31 ครั้งนี้ การติดตามเชียร์ของแฟนกีฬาไทย ควรเป็นไปในรูปแบบใหม่คือนักกีฬาชาติใดจะทำได้ดีกว่ากันในกีฬาสากล เมื่อแยกผลงานออกจากตารางเหรียญกีฬารวมทั้งหมด” ดร.ก้องศักด กล่าว

สำหรับการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 22 ที่ประเทศเวียดนาม เป็นเจ้าภาพครั้งแรก เมื่อปี 2003 (2546) นักกีฬาเวียดนาม ครองเจ้าเหรียญทอง ทำได้ 158 เหรียญทอง 97 เหรียญเงิน 91 เหรียญทองแดง ส่วนไทย ได้อันดับ 2 ทำได้ 90 เหรียญทอง 93 เหรียญเงิน 98 เหรียญทองแดง

ทั้งนี้ ประเทศเวียดนาม เจ้าภาพซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ได้บรรจุชนิดกีฬาชิงชัยทั้งสิ้น 40 ชนิด ประกอบด้วย กีฬาทางน้ำ (ว่ายน้ำ, กระโดดน้ำ, ฟินสวิมมิ่ง), ยิงธนู, กรีฑา, แบดมินตัน, บาสเกตบอล, บิลเลียด, เพาะกาย, โบว์ลิ่ง, มวยสากล, เรือแคนู, หมากรุกสากล, จักรยาน, แดนซ์สปอร์ต, อีสปอร์ต, ฟันดาบ, ฟุตบอล, กอล์ฟ, ยิมนาสติก, แฮนด์บอล, ยูโด, ยูยิตสู, คาราเต้, คิกบ็อกซิ่ง, คูราช, มวยไทย, ปันจักสีลัต, เปตอง, เรือพาย, ตะกร้อ, ยิงปืน, เทเบิลเทนนิส, เทควันโด, เทนนิส, ไตรกีฬา, วอลเลย์บอล, โววีนั่ม, ยกน้ำหนัก, มวยปล้ำ, วูซู, หมากรุกเซี่ยงฉี ชิงชัย 526 เหรียญทอง