สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 2 พ.ค. ว่า เจ้าหน้าที่ผจญเพลิงมากกว่า 1,000 คน พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสำหรับการควบคุมเพลิง กระจายกำลังกันดับไฟป่ามากกว่า 10 จุด ซึ่งกระจายกันอยู่ทั่วรัฐนิวเม็กซิโก ทางตะวันตกเฉียงใต้ของสหรัฐ ตั้งแต่ช่วงต้นเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา

หนึ่งในนั้นคือการรวมตัวของไฟป่า “คาล์ฟ แคนยอน/เฮอร์มิตส์ พีค” ที่เผาทำลายพื้นที่ไปแล้วมากกว่า 100,000 เอเคอร์ เป็นไฟป่าขนาดใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐนิวเม็กซิโก และรุนแรงที่สุดของสหรัฐ นับตั้งแต่ต้นปีนี้

KENS 5: Your San Antonio News Source

อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางสภาพอากาศที่ยังคงไม่เป็นใจให้กับภารกิจของเจ้าหน้าที่ เนื่องจากยังคงร้อนและแห้งจัด ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจึงกังวลว่า มีความเป็นไปได้สูงมาก ที่ไฟป่าจะขยายอาณาเขตความรุนแรงออกไปอีกไม่ต่ำกว่าสองเท่า

กลุ่มควันโขมงจากพื้นที่เกิดไฟป่า บนภูเขาลูกหนึ่ง ในรัฐนิวเม็กซิโกของสหรัฐ


นอกจากนี้ สถานการณ์ที่เกิดขึ้นยังสอดคล้องกับการวิเคราะห์ของกระทรวงเกษตรสหรัฐ ซึ่งระบุว่า 80% ของพื้นที่ทางตะวันตกในสหรัฐกำลังเผชิญกับภัยแล้งรุนแรงกว่าปกติในปีนี้ เพิ่มความเสี่ยงให้กับการเกิดไฟป่าที่รุนแรงและยาวนานกว่าปกติ


ขณะที่รายงานโดยศูนย์สังเกตการณ์ไฟป่าของสหรัฐ ระบุว่า พื้นที่ซึ่งได้รับความเสียหายจากไฟป่านับตั้งแต่ต้นปีนี้ มากกว่าสถิติในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้วกว่าสองเท่า และมากกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 10 ปีล่าสุดถึง 70% นอกจากนี้ ยังมีการวิเคราะห์ไปในทางเดียวกัน ว่าอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้ปริมาณหิมะในบริเวณนี้ลดลง จึงตามมาด้วยฤดูกาลไฟป่าที่เกิดขึ้นเร็วกว่าปกติ.

เครดิตภาพ : REUTERS