เมื่อวันที่ 29 เม.ย. นายสกลธี ภัททิยกุล ผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. หมายเลข 3 กล่าวถึงนโยบายการหารายได้ให้กับ กทม. หากได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ โดยกล่าวว่า นอกจากการหารายได้จากการปรับเปลี่ยนระบบการเก็บขยะของ กทม.จากที่ต้องดำเนินการเอง ทำให้ต้องเสียงบประมาณในการจัดจ้างหรือเช่ารถ เปลี่ยนเป็นให้เอกชนเข้ามาดำเนินการ เพื่อลดค่าใช้จ่ายในส่วนนั้น และยังหารายได้เพิ่มจากการขายขยะด้วย

นอกจากการหารายได้ในนโยบายนี้ ตนยังมีแนวคิดที่จะให้ กทม.จัดเก็บภาษีเมือง จากการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ หรือ “City Tax” โดยภาษีนี้หลายเมืองในหลายประเทศ มีการจัดเก็บเหมือนกัน เพื่อนำรายได้จากนักท่องเที่ยวไปพัฒนาเมือง

“เวลาเราไปเที่ยวต่างประเทศและไปนอนโรงแรม เราก็จะเสีย City Tax ให้กับเมืองนั้นๆ ด้วย ซึ่งเรื่องนี้ ตนกำลังคิดที่จะเอามาทำให้กับกรุงเทพฯ เพราะอย่างทุกวันนี้นักท่องเที่ยวที่เข้าประเทศมาต้องเสียค่าเหยียบแผ่นดินให้กับการท่าฯ แต่เข้ามาในกรุงเทพฯ เขาเข้ามาใช้ทรัพยากรของเรา เขากลับไม่ได้เสียอะไรเลย จึงกำลังหารูปแบบอยู่ว่าจะทำอย่างไรให้นักท่องเที่ยวจ่ายภาษีให้เรา เพื่อที่เราจะได้นำเงินส่วนนั้นมาพัฒนากรุงเทพฯ ได้บ้าง ซึ่งผมมองว่าจะเป็น City Tax ที่เก็บร่วมกับโรงแรม” นายสกลธี กล่าว

นายสกลธี เชื่อว่าหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลายลง และรัฐบาลเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ การท่องเที่ยวของไทยจะกลับมาคึกคักอีกครั้งโดยเฉพาะกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเมืองที่ได้รับความนิยม เมื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติมาถึงประเทศไทย ทุกคนอยากจะมาเที่ยวกรุงเทพฯ ดังนั้น ตนคิดว่านักท่องเที่ยวควรมีส่วนร่วมที่จะช่วยเหลือ กทม. ในการจ่ายภาษีส่วนนี้เพื่อนำไปพัฒนาสิ่งต่างๆ ในกรุงเทพฯ ได้ด้วย

ทั้งนี้ นายสกลธี ยังย้ำด้วยว่า หากตนได้เป็นผู้ว่าฯ กทม. ตนจะเป็นผู้ว่าฯ กทม. คนแรก ที่หารายได้ให้กับ กทม. เพราะที่ผ่านมา ยังไม่เคยมีผู้ว่าฯ กทม. คนไหนคิดเรื่องนี้เลย.