จากกรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม โพสต์เฟซบุ๊กถึงนโยบายในการจัดการข่าวปลอม หรือ “เฟคนิวส์” อย่างจริงจัง เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 28 ก.ค. พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สนองนโยบายดังกล่าว โดยแจ้งให้ทุกหน่วยในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประสานการปฏิบัติร่วมกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (MDES) หน่วยงานความมั่นคง หน่วยงานสาธารณสุข และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ในการเฝ้าตรวจสอบข้อมูลข่าวสารที่ถูกบิดเบือนหรือข่าวปลอมอยู่เสมอ และเร่งสร้างการรับรู้ให้กับพี่น้องประชาชนให้ทราบถึงพิษภัยและรูปแบบการกระทำความผิด รวมถึงเร่งทำการพิสูจน์ทราบตัวผู้กระทำความผิด และสืบสวน ปราบปราม จับกุมผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีอย่างจริงจังต่อเนื่อง ภายในกรอบของกฎหมาย เพื่อเป็นการจำกัดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น, ตัดโอกาสในการกระทำความผิดและทำให้พี่น้องประชาชนได้รับข่าวสารที่ถูกต้องต่อไป

สำหรับการกระทำลักษณะของการผลิต หรือเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ถูกบิดเบือนหรือข่าวปลอมนั้น เข้าข่ายความผิดฐานนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย หรือ ก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 14 และเป็นความผิดฐานฝ่าฝืนข้อกำหนด ประกาศ หรือคำสั่งที่ออกตามมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

รองโฆษก ตร. กล่าวอีกว่า ขอฝากเตือนไปยังผู้ที่กระทำความผิดว่าให้หยุดการกระทำในลักษณะที่บิดเบือนข้อมูลข่าวสารอันทำให้เกิดความเข้าใจผิดในสถานการณ์ฉุกเฉิน ตามข้อ 11 ของ ข้อกำหนด พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ (ฉบับที่ 27) เพราะนอกจากจะผิดกฎหมายแล้ว ยังเป็นการซ้ำเติมจิตใจของพี่น้องประชาชนที่ควรจะได้รับข่าวสารที่ถูกต้องและทำให้เกิดความสับสนตื่นตระหนกในสังคม รวมถึงส่งผลกระทบต่อความสงบในบ้านเมืองอีกด้วย โดยเฉพาะในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทุกคนประสบความเดือดร้อนกันอยู่แล้ว

นอกจากนี้ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่แจ้งเบาะแสะการกระทำความผิดเข้ามาและขอเรียนประชาสัมพันธ์ไปยังพี่น้องประชาชนให้ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลข่าวสาร และขอให้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ในทางที่สร้างสรรค์ประโยชน์ให้กับทั้งตนเองและสังคม หากพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด สามารถแจ้งไปยัง Call Center สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หมายเลขโทรศัพท์ 191 หรือ 1599 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง