นายสมพงษ์ จิรศิริเลิศ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) เปิดเผยว่า กรมเจ้าท่ามีแผนขยายปรับปรุงท่าเรือโดยสารให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ตามนโยบายรัฐบาลในการยกระดับและพัฒนาการให้บริการขนส่งโดยสารสาธารณะทางน้ำ ทั้งท่าเรือโดยสาร ท่าเรือข้ามฟาก และท่าเรือท่องเที่ยว เพื่อให้บริการประชาชน นักท่องเที่ยว รองรับจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น โดยมุ่งเน้นการอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการให้บริการที่สามารถเชื่อมต่อระบบโดยสารสาธารณะระหว่าง เรือโดยสาร ระบบราง (รถไฟฟ้า) รถประจำทาง (ล้อ-ราง-เรือ) เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งสาธารณะให้กับประชาชนมีทางเลือกในการเดินทางมากขึ้น
ทั้งนี้การปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานของท่าเรือ ยังได้นำระบบการออกแบบอารยสถาปัตย์เข้ามาใช้ มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการครอบคลุมทุกกลุ่ม ทั้งกลุ่มผู้สูงอายุ และผู้พิการ ให้สามารถเข้าถึงอย่างเท่าเทียม เนื่องจากปัจจุบันประชาชนและนักท่องเที่ยวมีความนิยมใช้เส้นทางการเดินเรือมากขึ้น
นายสมพงษ์ กล่าวต่อว่า ประกอบกับไทยกำลังเข้าสู่การเปิดประเทศ และรับการท่องเที่ยวเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ ดังนั้นความสำคัญการพัฒนาท่าเรือให้มีขนาดใหญ่จะต้องมีมาตรฐานความปลอดภัยที่สูง สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้โดยสารทั้งในและต่างประเทศ ตามนโยบายการพัฒนาขนส่งทางน้ำ ซึ่งกรมเจ้าท่าอยู่ระหว่างการพัฒนาปรับปรุงท่าเรือหลายแห่งในเส้นทางแม่น้ำเจ้าพระยา อาทิ ท่าเรือราชินี ท่าเตียน ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จ และเปิดให้บริการในเดือน พ.ค.65
นายสมพงษ์ กล่าวอีกว่า ในแผนปรับปรุงท่าเรือดังกล่าว ยังมีขั้นตอนการตรวจสอบท่าเรือโดยสารสาธารณะ ที่มีมาตรฐานการติดตั้งอุปกรณ์ประจำท่าเรือให้มีความปลอดภัยและเป็นไปตามมาตรฐานที่กรมเจ้าท่ากำหนด โดยได้มีการบูรณาการกับหน่วยงานท้องถิ่น หน่วยงานภายในพื้นที่ หน่วยงานภาครัฐ องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และหน่วยกู้ภัย ในการดูแลรักษาความปลอดภัยทางน้ำและการจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ประจำท่าเทียบเรือต่างๆ เพื่อดูแลความปลอดภัยของผู้โดยสาร ซึ่งกรมเจ้าท่าได้เปิดช่องทางเบอร์โทรฯ สายด่วน 1199 รับแจ้งเหตุทางน้ำได้ตลอด 24 ชม. หากเกิดกรณีฉุกเฉิน
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เกิดความร่วมมือของผู้โดยสาร ในมาตรการดูแลความปลอดภัยของท่าเรือและการใช้บริการเรือโดยสาร ได้มีแผนรณรงค์ให้ความรู้ด้านความปลอดภัย ผ่านสื่อออนไลน์ โดยการจัดทำอินโฟกราฟิก คลิปวิดีโอเผยแพร่ผ่านจอทีวีตามท่าเรือต่างๆ และเพื่อให้เข้าถึงประชาชนในวงกว้างมากขึ้น ได้ขยายสื่อประชาสัมพันธ์ ผ่านโซเชียลเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ และ อินสตาแกรม รวมถึงในรูปแบบแผ่นพับ ป้ายไวนิลติดตามท่าเรือในช่วงเทศกาลสำคัญๆ อาทิ ลอยกระทง ปีใหม่ วันสงกรานต์ วันหยุดยาว เป็นต้น